ไฟป่าโหมนิวยอร์ก และหัวเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ จนเกิดมลพิษกระทบสุขภาพ

America: ไฟป่าโหมในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ นครนิวยอร์ก และหัวเมืองใหญ่หลายแห่ง จนเกิดมลพิษปกคลุม เข้าขั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพ

เขตแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก เริ่มมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI ของฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงถึง 170 ซึ่งอยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ และสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ถึง 9 เท่า ขณะที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนียที่มีพรมแดนติดกันมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 172 

ส่วนเมืองอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เช่น เมืองบอสตันและนครฮาร์ตฟอร์ดในรัฐคอนเนตทิคัต ก็มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงกว่า 150 ซึ่งอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน ด้านทางการท้องถิ่นได้แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่กลางแจ้งเพื่อเลี่ยงการสูดควันพิษจากฝุ่นละออง

ศูนย์ประสานงานไฟป่าแห่งชาติของสหรัฐฯ ในเมืองบอยซีของรัฐไอดาโฮ รายงานว่า มีไฟป่าที่กำลังลุกไหม้กว่า 80 จุดใน 13 รัฐของภาคตะวันตก และเผาผลาญพื้นที่ป่าไม้แห้งแล้งรวมกันเกือบ 1.3 ล้านเอเคอร์ หรือราว 5,260 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารัฐเดลาแวร์ 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของแคนาดาระบุว่า มีไฟป่าเกิดขึ้นหลายร้อยจุดในภาคตะวันตกและภาคกลางของแคนาดา ในจำนวนนี้ มีไฟป่าที่ยังควบคุมไม่ได้ถึง 86 จุดในรัฐบริติชโคลัมเบียเพียงรัฐเดียวนับถึงวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น

ขณะเดียวกัน ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ได้เผาผลาญพื้นที่ราว 1,572 ตารางกิโลเมตร รอบป่าสงวนแห่งชาติฟรีมองต์-วิเนมา ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐออริกอนไปทางใต้ราว 400 กิโลเมตร นับตั้งแต่เริ่มประทุเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม และกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่อันดับสี่ของรัฐออริกอนในรอบ 100 ปี