โวยหนุ่มเมากาว บุกรื้อของเสียหาย ก่อเหตุหลายบ้าน จนท.ไม่จับตัว โบ้ยกันไปมา
หวั่นไม่ปลอดภัย หนุ่มเมากาว บุกรื้อของเสียหาย ก่อเหตุต่อเนื่องหลายบ้าน ได้รับความเดือดร้อน จนท.ไม่จับตัว หน่วยงานโบ้ยกันไปมา
วันที่ 31 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความว่า อะไรคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินครับ เมื่อเช้าเปิดดูกล้องวงจรปิดรอบ ๆ บ้าน พบว่าเป็นคนดมกาวเข้ามาทำลายข้าวของหลังบ้าน เลยโทรแจ้ง ตำรวจบอกว่าคนนี้โดนจับหลายครั้งแล้ว จับแล้วปล่อย แนะนำให้โทรแจ้งสังคมสงเคราะห์ พอโทรแจ้งทางหน่วยงานก็บอกว่าไม่ใช่อำนาจหน้าที่ ให้แจ้งสาธารณะสุขแผนกยาเสพติด พอโทรทางหน่วยงานแจ้งว่าให้แจ้งตำรวจสุดท้ายตำรวจแนะให้แจ้งนักข่าว มันคืออะไร
จากการสอบถามทราบว่า ผู้โพสต์คือ นายโสภณ กองแดง อายุ 33 ปี มีอาชีพเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ อยู่บ้าน ในพื้นที่ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยพฤติกรรมของชายเมากาวคนดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่ในละแวกนั้นจำนวนมาก
นายโสภณ กล่าวว่า วันเกิดเหตุทุกเช้าตื่นขึ้นมาก็จะมาเช็กกล้องวงจรปิดว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับบ้านของตนบ้าง พบว่ามีชายไม่สวมเสื้อสังเกตเห็นแขนขาดหนึ่งข้าง กำลังเข้ามารื้อค้นข้าวของบริเวณหลังบ้านของตน ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่ว ตนจึงได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
สอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันทราบว่า ร้านขายยาเภสัชแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับร้านของตน ก็เคยถูกคนแขนด้วนลักษณะเมากาวไปอาละวาดและรื้อค้นทำลายข้าวของบริเวณหน้าบ้านมาแล้วและทราบอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้เคยมานำตัวชายดังกล่าวไปบำบัดเป็นเวลา 3-4 เดือน แต่หลังจากนั้นก็ปล่อยออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเหมือนเดิม
ตนจึงนำภาพกล้องวงจรปิด ในขณะที่ถูกชายแขนด้วนซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาหรือสูดดมสารระเหย รื้อค้นข้าวของบริเวณหลังบ้านกระจัดกระจายไปทั่วหลัง จากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 หลังจากแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่รับแจ้งความได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจเข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
จึงได้ร้องเรียนไปที่เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายยาเสพติด หลังจากร้องหน่วยงานรัฐแล้วต้นสังเกตว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้าทุกอย่างยังเหมือนเดิม หวั่นเกิดเหตุบานปลายมากกว่าเดิม