‘IMH’รัฐ-เอกชนแห่ใช้บริการ จ้องซื้อกิจการขยายฐานธุรกิจ

ทันหุ้น - สู้โควิด – IMH ชี้งานตรวจสุขภาพเข้าสู่ภาวะปกติ ลูกค้าภาครัฐ เอกชนพร้อมใจเข้าใช้บริการ การันตียอดเข้าตรวจสูงกว่าปีก่อนที่ 8-9 แสนคน ด้านบอสใหญ่ พลิกวิกฤตเป็นโอกาสมองการณ์ไกล จ้องซื้อกิจการเสริมฐานแกร่ง พร้อมโชว์เงินสดเต็มมือ 200 ล้านบาท แถม D/E ต่ำเพียง 0.12 เท่า

นายสิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH เปิดเผยว่า แนวโน้มการให้บริการตรวจสุขภาพเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทั้งการให้บริการตรวจสุขภาพหน่วยงานรัฐและเอกชน แต่จะกลับมาดีมากในช่วงไตรมาส 4/2563

ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้บริษัทคาดจำนวนผู้เข้าใช้บริการปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน แต่จะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ บริษัทขอดูทิศทางปลายปีนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นแตะ 1.2 ล้านคน จากปีก่อนที่ 8-9 แสนคน ขณะเดียวกันภาพรวมรายได้ปีนี้ บริษัทคาดเดาได้ยากว่าจะเติบโตตามเป้าหมายหรือไม่ โดยต้นปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อน 336.61 ล้านบาท

“เป้าหมายจำนวนผู้ใช้บริการคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีก่อนแน่นอน แต่จะทำได้ตามเป้าที่เราตั้งไว้หรือไม่ ขอดูตัวเลขปลายปีนี้อีกครั้ง ภาพรวมผลประกอบการก็เช่นกัน บริษัทขอดูทิศทางในช่วง 3 สุดท้ายก่อนว่าจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผลประกอบการจะกลับมาเป็นบวกได้หรือไม่”นายสิทธิวัตน์ กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายจำนวนลูกค้า โดยจะหันมาให้บริการตรวจสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าว และให้บริการตรวจสุขภาพร่วมกับบัตรประกันสังคมมากขึ้น โดยคาดในปีนี้คาดสัดส่วนการตรวจสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าวจะอยู่ที่ 50% จากปีก่อนมีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ส่วนที่เหลือ 40% จะเป็นการตรวจสุขภาพให้กับลูกค้าเอกชน ส่วนอีก 10% จะเป็นการตรวจสุขภาพให้กับประกันสังคม

จ้องเทคโอเวอร์

บริษัทประเมินภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันเป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการลงทุน ขยายกิจการ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างมองหาการซื้อกิจการหรือเทกโอเวอร์ธุรกิจอื่นๆ ซึ่งอยู่ในลักษณะเดียวกันกับ IMH เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล บริษัทผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น บริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันมีเงินสดอยู่ราว 200 ล้านบาท

อีกทั้งบริษัทไม่มีหนี้ระยะยาว ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับต่ำ 0.12 เท่า ประกอบกับต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลง หากบริษัทต้องการเงินทุนสำหรับขยายกิจการ คาดจะมีวงเงินสำหรับการดำเนินงานเพียงพออย่างแน่นอน ทั้งนี้บริษัทต้องการผลักดันธุรกิจและผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว และมีอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มองค์กร บริษัทได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ BKI ในการแชร์ฐานลูกค้าร่วมกัน ซึ่งทาง IMH จะมอบกรรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมูลค่า 50,000 ​บาท จาก BKI ให้กับลูกค้าองค์กรที่ตรวจสุขภาพประจำปีตามเกณฑ์ที่ทางโรงพยาบาลกำหนดฟรีเป็นระยะเวลา 3 เดือน และหากลูกค้าต้องการซื้อให้ครบระยะเวลา 1 ปีทาง BKI จะมอบส่วนลดพิเศษให้เฉพาะลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจาก IMH เท่านั้น