รีเซต

รปช.หนุนวิป รบ.ไม่เห็นด้วยเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หวั่นเสี่ยงสัมผัส-แพร่เชื้อ "โควิด-19"

รปช.หนุนวิป รบ.ไม่เห็นด้วยเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หวั่นเสี่ยงสัมผัส-แพร่เชื้อ "โควิด-19"
มติชน
27 เมษายน 2563 ( 10:54 )
37
รปช.หนุนวิป รบ.ไม่เห็นด้วยเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หวั่นเสี่ยงสัมผัส-แพร่เชื้อ "โควิด-19"

 

การเมือง- เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จะหารือถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคฝายค้านเข้าชื่อขอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลแสดงท่าทีคัดค้าน ว่า ตนไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากการแก้ปัญหาวิกฤตของรัฐบาล นำโดย ศบค.ได้บังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและมาตรการทางด้านสาธารณสุข ควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพจนจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งการเฝ้าระวังและป้องกันยังต้องดำเนินต่อไปในระยะยาว ไม่อาจย่ามใจได้ การเปิดประชุมสภาที่จะเกิดการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ได้มีเพียงแค่ ส.ส.500 คน แต่ยังมีผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่ และผู้สื่อข่าวจำนวนมากมารวมตัวกัน ก็อาจก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงในการสัมผัสและแพร่กระจายเชื้อได้

 

“จึงควรรอการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญที่มีกำหนดเปิดประชุมในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีความเหมาะสมกว่า เพราะระยะเวลาอีก 1 เดือน จะทำให้เห็นความชัดเจนของประสิทธิภาพในการควบคุมโรคมากยิ่งขึ้น และมีเวลาในการจัดเตรียมมาตรการเฝ้าระวังของสภาฯ ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมที่จะต้องยึดตามมาตราการเว้นระยะทางสังคมหรือ social distancing หรือหากต้องการช่วยเหลือสังคมไทย ส.ส.ก็ควรร่วมใจกันลงพื้นที่ช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อสถานการณ์ ในยามวิกฤต ส.ส.ต้องทำงานนอกสภาฯ อยู่กับประชาชน” นายเขตรัฐ กล่าว

 

 

ด้าน น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครปช. กล่าวว่า การเป็น ส.ส.ไม่ได้มีหน้าที่แค่นั่งอยู่ในสภา ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ตนและนายเขตรัฐได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่ติดชายแดน จ.กาญจนบุรี ซึ่งทำให้ถูกต้ังคำถามว่า การเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องลงพื้นที่ด้วยหรือ ซึ่งขอเรียนว่าในยามวิกฤตของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.แบบใดก็ต้องลงพื้นที่ ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน ถ้าไม่มีพื้นที่ให้ลงก็อาจจะไปช่วยเพื่อน ส.ส.ท่านอื่น แต่ประโยชน์สูงสุดต้องตกที่ประชาชน ถ้านิ่งดูดายทำงานแค่ในสภาคงไม่ใช่ไสตล์การทำงานของตนกับนายเขตรัฐเป็นแน่แท้

 

“เราต้องทำงานให้คุ้มกับภาษีประชาชนทุกบาททุกสตางค์ เมื่อประชาชนเดือนร้อน ส.ส. คือตัวแทนที่มาจากประชาชน คนเป็น ส.ส.จึงต้องเดือดร้อนเช่นกัน และจะต้องพยายามทำให้ความเดือดร้อนอันนั้นบรรเทาลงไปให้ได้ ขอยืนยันที่จะลงพื้นที่ต่อไป จะสู้ต่อไปและเดินหน้าต่อไปเพื่อประเทศของเรา” น.ส.จุฑาฑัตต กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง