ทรัมป์ บอกติดโควิดครั้งนี้เป็น "ของขวัญจากพระเจ้า"

วันนี้( 8 ต.ค.63) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์คลิปวีดิโอล่าสุดลงในทวิตเตอร์ ระบุว่า การที่เขาติดเชื้อโควิด19 เป็นของขวัญจากพระเจ้าและขณะนี้เขารู้สึกสบายดีมาก โดยทรัมป์ให้เครดิตบริษัทยา รีเจอเนอรอน ฟาร์มาซูติคอลส์ อิงค์ และบริษัทยา เอลี ลิลลี่ แอนด์ โค จากการที่ยาชนิดเดียวกัน ที่ผลิตโดยบริษัทยาทั้งสองได้ช่วยรักษาเขาจนหาย

ทรัมป์ ระบุว่า เขารู้สึกมีอาการดีขึ้นทันทีหลังได้รับยาของทั้งสองบริษัทนี้ จึงต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาทั้งหมดแบบเดียวกับที่เขาได้รับ พร้อมกับให้สัญญากับประชาชนว่า จะให้ประชาชนได้รักษาฟรีด้วยยาของรีเจนเนอรอน ตัวเดียวกับที่ใช้รักษาเขาจนหายจากโควิด 

พร้อมกันนี้ ทรัมป์ประกาศจะทำให้ยานี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและกว้างขวางกว่านี้ โดยสัญญาว่าจะเร่งอนุมัติยากดังกล่าวเป็นกรณีเร่งด่วน สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยโควิด19 ที่มีอาการหนักและฉุกเฉิน ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับยาอย่างรวดเร็วและฟรี 

โดยขณะนี้ยาของรีเจนเนอรอนดังกล่าว จำนวนหลายแสนโดส ใกล้จะพร้อมใช้แล้วแต่ว่ายาดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุมัติจากผู้คุมกฎของรัฐบาลกลางสหรัฐ

ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ทรัมป์ ได้กลับเข้าไปในห้องทำงานประธานาธิบดีรูปไข่ ที่อยู่ในทำเนียบขาวเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยทรัมป์เข้าโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ทหารวอลเตอร์ รี้ด เป็นเวลาเพียง 3 วัน และเริ่มทำงานที่ห้องรูปไข่เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังจากที่ทรัมป์ติดเชื้อโควิด19 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว 

ทรัมป์กลับเข้าไปทำงานที่ห้องรูปไข่ หลังจากที่นายแพทย์ ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว ได้เปิดเผยผลการตรวจร่างกายและสัญญาณสำคัญต่างๆ ทางด้านสุขภาพของทรัมป์ล่าสุด ซึ่งรวมไปถึงระดับอ็อกซิเจนในร่างกายและอัตราการหายใจของทรัมป์เป็นปกติทั้งหมดแล้ว และทรัมป์ไม่มีไข้และไม่ปรากฏอาการของโควิด19 มาเป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว นายแพทย์คอนลีย์ระบุว่า ทรัมป์ไม่จำเป็นต้องได้รับอ็อกซิเจนเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ผลการตรวจแล็บยังตรวจพบระดับของสารภูมิต้านทานแอนติบอดี้ต่อโควิด19 ในตัวของทรัมป์ตั้งแต่วันที่เขาออกจากโรงพยาบาลคือวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์จะติดตามอาการประธานาธิบดีอย่างใกล้ชิดต่อไป และจะรีบแจ้งให้ทราบหากมีความคืบหน้า

เกาะติดข่าวที่นี่