เพชรชมพู ยื่นลาออกพรรคเทือก สิ้นสภาพส.ส.ทันที สุเนตตาเฮ! เสียบแทน
เพชรชมพู กิจบูรณะ ยื่นลาออกพรรคเทือก มีผลสิ้นสภาพส.ส.ทันที ส่งผลให้ สุเนตตา ผู้สมัครลำดับที่ 8 จ่อขยับขึ้นเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2564 น.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรค ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง โดยระบุถึงสาเหตุการลาออกว่า วันนี้ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคกับหัวหน้าพรรคและนายทะเบียนสมาชิกพรรค รวมถึงส่งสำเนาให้กับ กกต. เรียบร้อยแล้ว
ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามมาตรา 101 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้ที่มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคจะเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส. แทน
ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง ตนได้พบเห็น เรียนรู้ และเข้าใจประเด็นปัญหาต่างๆ ของประเทศมากขึ้นทั้งในเชิงมหภาคและจุลภาค บ่อยครั้งที่ ทางออกของปัญหานั้น ไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจได้ จึงตกเป็นหน้าที่ของฝ่ายนโยบายที่จะหาจุดสมดุล ให้เจอเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทุกกลุ่ม
สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งส.ส. เรามีส่วนร่วมหาจุดสมดุลนี้ได้ผ่านที่ประชุมสภา และกรรมาธิการชุดต่างๆ กว่า 2 ปีที่ดำรงตำแหน่งส.ส. ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ไม่ว่าในที่ประชุมสภา ในกมธ. หรือในการประชุมระหว่างประเทศ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้พบเจอและร่วมงานตลอดเส้นทางการเมือง
ขอบพระคุณนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ให้โอกาส ได้เข้ามาทำงานการเมือง ขอบพระคุณม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคคนแรกที่ได้ให้ข้อคิดและแนวทางการทำงานเพื่อประเทศชาติ ขอบพระคุณนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันสำหรับคำแนะนำต่างๆ ที่มีให้เสมอมา
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบพระคุณประชาชนที่ได้ให้ความไว้วางใจให้ตนเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนในสภา เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ทุกท่าน
น.ส.เพชรชมพู ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เข้าไปลานายสุเทพ และนายทวีศักดิ์ แล้วและเป็นการจากกันด้วยดี จากนี้นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ อดีตกรรมการบริหารพรรค จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขอชี้แจงว่ายังไม่ได้พูดคุยกับพรรคใด และขออยู่นิ่งๆก่อน และไปเรียนเนติบัณฑิตต่อให้จบ
ผู้สื่อข่าวรายงาว่าสำหรับบุคคลที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อแทนคือ นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 8 พรรค รปช.