TVI ปักธง3ปีเบี้ยหมื่นล. ห่วงโควิดกดันภาคธุรกิจ
ทันหุ้น- TVI ฉายภาพ เจอจ่ายจบ ยังน่าห่วงหากการแพร่ระบาดรุนแรงอีกรอบ ขณะที่ TVIมีแต่แผนโคม่า และค่ารักษา จึงกระทบไม่มาก และยังคงเติบโตได้ดี พร้อมตั้งเป้าเบี้ย แตะหมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยอัตราการโตเฉลี่ย 10-15%ต่อปี
นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI กล่าวว่า แม้ภาคธุรกิจจะต้องเผชิญกับการจ่ายเคลมสินไหมจากโควิด-19 โดยเฉพาะในแบบประกันเจอจ่ายจบ แต่ในส่วนของบริษัท ไม่ได้ออกแผนคุ้มครองลักษณะนี้ แต่เน้นไปที่ความคุ้มครองขั้นโคม่า และการรักษา ทำให้ผลกระทบจากการการจ่ายเคลมไม่ได้สูงมาก ขณะที่ค่ารักษาพยาบาลส่วนใหญ่รัฐจะเป็นผู้จ่าย
เจอจ่ายจบน่าห่วง
“ในส่วนของภาพรวมธุรกิจยังคงต้องจับตาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อไป ซึ่งหากสถานการณ์กลับไปเหมือนจุดที่เคยเกิดขึ้น มองว่าก็น่าจะส่งผลกระทบต่อแผนประกัน เจอ จ่าย จบ ที่บางส่วนยังมีระยะเวลาคุ้มครองถึงกลางปี 2565 แต่ในส่วนของ เราผลกระทบค่อนข้างจำกัด ขณะเดียวกันบริษัทยังสร้างการเติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมาด้วย”
นายจีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ เจอจ่ายจบ คิดว่าทุกฝ่ายกำลังหาทางออกร่วมกัน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และส่วนของภาคธุรกิจ เพราะหากมีการปิดบริษัทอีกก็จะไม่เป็นผลดีกับกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) ที่แม้จะมีเงินทุน 5 พันล้านบาทดูแลผู้เอาประกันภัยจากการที่บริษัทประกันวินาศภัยปิดตัวลง
แต่ที่ผ่านมา มีบริษัทประกันวินาศภัยหลายแห่งปิดตัวลง และผู้เอาประกันภัยยังได้รับชำระหนี้ไม่หมด ซึ่งหากมีบริษัทต้องปิดตัวอีกคงไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม นายจีรพันธ์ เชื่อว่า ภาคธุรกิจจะสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้ เพราะสถานการณ์รุนแรงอย่างน้ำท่วมในปี 2554 เคลมสินไหมเป็นแสนล้านบาท ภาคธุรกิจก็ยังผ่านมาได้
สำหรับประกันภัยไทยวิวัฒน์ ปัจจุบันเปิดดำเนินธุรกิจมา 70 ปี แล้ว ซึ่ง นายจีรพันธ์ บอกว่าก้าวต่อไปของบริษัทยังคงมุ่งนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการความยืดหยุ่น มุ่งแก้ปัญหา Pain Point ของผู้บริโภคอย่างเข้าใจในทุกมิติ ทั้งด้านความคุ้มครอง และความคุ้มค่า สอดรับวิถีชีวิตและความต้องการเฉพาะบุคคล ส่งผลให้ได้รับกระแสการตอบรับจากผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันยอดกรมธรรม์ และเบี้ยรับใหม่เติบโตก้าวกระโดด โดยคาดว่า ภาพรวมเบี้ยประกันภัยรับปี 2564 จะเติบโตขึ้นทะลุ 6,000 ล้านบาท
3ปีเบี้ยทะลุหมื่นล.
“โดยเป้าหมาย ภายใน 3 ปี นับจากปี 2565 บริษัทจะสร้างเบี้ยรับรวมขึ้นสู่หลักหมื่นล้านบาทให้ได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราต้องโตเฉลี่ยปีละประมาณ 10-15%”
นายจีรพันธ์ กล่าวอีกว่า ภายใต้วิกฤติโควิด-19 ทำให้ ธุรกิจประกันภัยเป็นที่รู้จักของประชาชนมากขึ้นในทุกกลุ่ม และประชาชนก็เห็นความสำคัญของการมีประกันภัย ซึ่งตรงนี้บริษัทมองว่าเป็นโอกาสในการทำธุรกิจ แลชะสร้างการเติบโตในอนาคต แต่นั่นก็หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ และบริการจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่เช่นกัน โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดที่บริษัทนำเสนอ โดดเด่นเรื่องความยุติธรรมของเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย ซึ่งช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้สูงสุดถึง 70% นั้นเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสเติบโตสูง
นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ TVI มองว่าประกันรถยนต์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพะาแบบประกันเปิดปิด ของประกันภัยไทยวิวัฒน์ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยมีอัตราการเข้าถึงประกันวินาศภัยอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีอัตราเบี้ยต่อ GDP เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20% ขณะที่ประเทศไทยต่ำกว่า 2% เท่านั้น
นอกจากนั้นยังพบว่ารถยนต์ที่จดทะเบียนส่วนบุคคลในประเทศไทยที่ยังไม่มีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจอยู่กว่า 7 ล้านคัน ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเข้าถึงการประกันภัยที่ยังต่ำโดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจน่าจะมาจากผู้ทำประกันรถยนต์ส่วนใหญ่กว่า 80% เห็นว่าต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงกว่าความจำเป็น