"หอการค้า"แนะเร่งเจรจาค้ารับมือ"ภาษีสหรัฐ"

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนช่วงนี้หารือร่วมกันเครียดพอสมควรจากปัจจัยลบต่างๆ ทั้งเรื่องภาษีสหรัฐฯ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน  เพราะมีผู้ค้าผู้ส่งออกอยู่กับเราเยอะ ซึ่ง 1 เสาหลักก็เป็นเรื่องเกษตรและอาหาร 

ก็ได้แต่หวังว่ากรณีการปรับขึ้นภาษีสหรัฐ ประเทศไทยก็จะผ่านไปได้เช่นกัน ผ่านการเร่งหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโต ทั้งการค้าขายที่ยังไม่เคยส่งสินค้าตรงจากไทย 

หรือประเทศที่ยังไม่เคยมีข้อตกลงทางการค้าร่วมกัน มีภาษีสูง หรือมีข้อจำกัดบางประการ ซึ่งต้องอาศัยการเจรจาเพื่อเปิดตลาดก่อนระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยพยายามเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพิ่มเติมหลากหลายประเทศ ซึ่งตอนนี้ลุ้นให้จบเร็วที่สุดเป็นเอฟทีเอกับอียู เพราะมีกว่า 20 ภายใต้การเจรจาครั้งเดียวถือว่าคุ้มค่ามาก แต่ที่ผ่านมาทิ้งช่วงการเจรจาไป 8-9 ปี 

ตอนนี้ถือป็นจังหวะที่ดีมาก จึงต้องบอกว่าเรามีโอกาสในวิกฤต เพราะช่วงเวลาที่สหรัฐพยายามเรียกเก็บภาษีอัตราสูงๆ ในหลายประเทศทั่วโลก ถือเป็นช่วงจังหวะเวลาที่ทำให้แต่ละประเทศหันหน้ามาพูดคุยกันมากขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างก็จะยังทำการค้าขายต่อได้  

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า หอการค้าได้ขอให้สมาคมการค้าต่างๆ สำรวจสินค้าของตัวเองว่ามีสัดส่วนที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเราเกินกว่าร้อยละ 50-60 หรือไม่ เพราะมีโอกาสสูงมากที่ประเทศไทยจะใช้วิธีเจรจาในรูปแบบที่คล้ายกับเวียดนาม คือ ได้รับภาษีใน 2 อัตรา เพราะไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่ถูกสหรัฐมองว่า คือที่ส่งผ่านของสินค้าจากจีน

จึงเป็นเรื่องที่เราต้องต้องลงไปดูในเชิงลึกเพื่อเตรียมการรับไว้ 

นอกจากนี้ สิ่งที่อยากฝากไว้ คือ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่ค่อนข้างแข็งค่าในเชิงผิดปกตินะ ซึ่งมีผลกับการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ จึงต้องไปดว่าแข็งค่าจากอะไร เพราะปกติการแข็งค่าของค่าเงินบาท จะต้องมาจากการส่งออกดี เศรษฐกิจในประเทศดี