สหรัฐฯ ยืนยัน ทรัมป์พบสี จิ้นผิงที่เกาหลีใต้

ความตึงเครียดล่าสุดเกิดขึ้น หลังจากที่จีนประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จะขยายมาตรการควบคุมการส่งออก “แร่หายาก” (rare earths) ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง จากนั้นในวันศุกร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเข้าสู่ภาวะตึงเครียดอย่างหนัก
เบสเซนต์เปิดเผยว่า ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีการสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และยังมีการวางแผนจัดประชุมเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้
เบสเซนต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Fox Business Network ว่า "เราสามารถลดความตึงเครียดลงได้อย่างมากแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า มาตรการขึ้นภาษีจะยังไม่มีผลจนกว่าจะถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน และเขาจะพบกับสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้ ซึ่งเบสเซนต์เชื่อว่าการพบปะนั้นยังคงจะเกิดขึ้นตามแผนเดิม
ทั้งนี้ ทรัมป์และสี จิ้นผิง มีกำหนดจะพบกันในระหว่างการประชุมสุดยอดของเวทีความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ซึ่งเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
น้ำเสียงที่อ่อนลงของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของตลาดวอลล์สตรีท ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงเปิดการซื้อขายวันจันทร์ในนิวยอร์ก โดยดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยีพุ่งขึ้นเกือบร้อยละ 2 และดัชนีสำคัญอื่น ๆ เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 1
คำขู่ของทรัมป์เมื่อวันศุกร์ ทำให้เกิดแรงเทขายครั้งใหญ่ในตลาดหุ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายระดับสูง เริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นที่พุ่งสูงเกินจริง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากกระแสการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ที่บางฝ่ายเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในอนาคต
เบสเซนต์เปิดเผยว่า จะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ระหว่างสหรัฐฯและจีนในกรุงวอชิงตันสัปดาห์นี้ ซึ่งจะจัดขึ้นนอกรอบการประชุมประจำปีของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ
เบสเซนต์ กล่าวว่า “การเก็บภาษีสินค้าจากจีน 100% อาจไม่เกิดขึ้น” ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ แม้จะมีประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ยังถือว่าดีอยู่ ช่องทางการสื่อสารกลับมาเปิดอีกครั้งแล้ว ดังนั้นเราจะรอดูว่าทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อไป”
ทางการจีนออกมาตอบโต้เมื่อวันอาทิตย์ โดยกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นต้นตอของความตึงเครียดทางการค้าที่ยกระดับขึ้น และเรียกคำขู่ล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์เรื่องการขึ้นภาษี 100% กับสินค้าจีนว่า “หน้าซื่อใจคด”
จีนยังได้ออกโรงปกป้องมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่าเป็นไปตามความจำเป็นทางเศรษฐกิจ จีนครองตลาดแร่หายากเหล่านี้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ภายใต้กฎระเบียบใหม่ของจีน บริษัทต่างชาติที่ผลิตแร่หายากหรือแม่เหล็กบางชนิดตามรายการที่ระบุไว้ จะต้องยื่นขอใบอนุญาตส่งออกจากจีน หากผลิตภัณฑ์สุดท้ายนั้นมีส่วนประกอบที่ผลิตในจีน หรือใช้เครื่องจักรหรือวัสดุจากจีน แม้ว่าการทำธุรกรรมจะไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีนโดยตรงก็ตาม