ผลตรวจออกแล้ว! ครอบครัว-คนใกล้ชิด ดีเจติดโควิด พบสัมผัสเสี่ยงสูงถึง 140 ราย

สธ.ขยายผลสืบสวนโรคผู้ต้องขังดีเจเพิ่มเป็น 708 ราย เสี่ยงสูงถึง 140 ราย ผลตรวจทั้งหมดยังไร้ติดเชื้อ ทั้งจากคอนโด ร้านที่ทำงาน ราชทัณฑ์

วันที่ 5 ก.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ต้องขัง "ดีเจ" ติดโควิด 19 ว่าผู้ป่วยยังไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วง อยู่ในการดูแลของรพ.ราชทัณฑ์ ส่วนผู้สัมผัส เรามีการสอบสวนเพิ่มเติม พบผู้สัมผัสเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 708 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 140 ราย สัมผัสเสี่ยงต่ำ 568 ราย แยกเป็นรายกลุ่ม ดังนี้

1.คอนโด มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 6 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

2.ศาลรัชดา เมื่อวันที่ 26 ส.ค. มีผู้สัมผัส 493 ราย แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 15 ราย ตรวจแล้ว 11 ราย ไม่พบเชื้อ เสี่ยงต่ำ 478 ราย ตรวจแล้ว 146 ราย ไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลตรวจ และเฝ้าระวัง 14 วัน

3.รพ.ราชทัณฑ์ มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 6 ราย อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน

4.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีผู้ต้องขังร่วมห้องระหว่างกักกัน 36 คน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ รอกักตัวให้ครบ 14 วัน และต้องตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง ส่วนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเรือนจำ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 24 ราย แยกกักแล้ว อยู่ระหว่างเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และเสี่ยงต่ำ 52 ราย ให้เฝ้าระวัง 14 วัน

5.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 ราย ที่นั่งรถโดยสารร่วมกัน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

6.ร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 ราย อยู่ระหว่างรอผลแล็บ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ มีการประชาสัมพันธ์ให้ติดต่อเข้ามารับการคัดกรองที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

7.ร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 มีผู้สัมผัสทั้งหมด 55 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ตรวจแล้ว 22 ราย ไม่พบเชื้ออีก 1 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวที่มีข่าวว่าหลบหนีก็ติดตามตัวได้แล้ว มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 ราย ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน

8.ร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 ราย ตรวจแล้ว 13 ราย ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 1 ราย พบมีอาการเข้าเกณฑ์ PUI ได้ส่งไปรักษาที่ รพ.กลาง เพื่อตรวจและดูแลรักษา อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผู้มารับบริการอื่นๆ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ท่านใดที่มีข้อสงสัยหรือคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่ำสามารถมาขอรับบริการหรือว่าสอบถามเข้ามายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า ประชาชนอาจมีคำถามว่า 1.ติดเชื้อจากที่ไหน ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน 2.ผู้ต้องขังรายนี้จะไปแพร่โรคให้ใครหรือไม่ ยืนยันว่ารายนี้ไม่มีอาการมาก ประกอบกับเป็นดีเจ ทำงานกลางคืนกลางวันพัก ไม่ได้ทำงานบริการโดยตรง คนที่สัมผัสโรคจึงมีจำกัด ถ้าจะไปไหนคงมีแค่กิจวัตรประจำวัน ความเสี่ยงความกังวลว่าจะแพร่เชื้อแบบซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือไม่นั้นจะไม่มาก

3.ผู้สัมผัสใกล้ชิด ถ้าจะแพร่โรคให้ใครคงเป็นคนในครอบครัวก่อน แต่จากการตรวจคนในครอบครัวทั้งหมด ยังไม่มีใครติดเชื้อ และตามต่อคนใกล้ชิดคือผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมกัน 36 คนก็ไม่เจอเชื่อ ที่ศาลก็ไม่เจอ พนักงานที่ทำงานด้วยกันก็ไม่พบเชื้อ หมายความว่าโอกาสที่จะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น หรือผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำโอกาสก็ยิ่งน้อยไปอีก

"ที่เป็นแบบนี้ได้ส่วนหนึ่งคือมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่ทำกันอยู่ แม้ว่าจะหละหลวมไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้ทำ เพราะฉะนั้นคำแนะนำสำหรับประชาชนตอนนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 คนที่คิดว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่ในวันเวลาที่ผู้ติดเชื้ออาจจะไป ไม่ต้องตกใจหรือกังวล ให้โทร.สอบถาม 1422 หรือขอรับคำปรึกษา ตรวจคัดกรองได้ แต่ต้องมีการให้ประวัติก่อน และถ้าจุดไหนที่มีรถเก็บตัวอย่างเชื้อชีวนิรภัย ก็สามารถไปขอรับบริการได้"

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 ประชาชนทั่วไป โอกาสที่จะเจอผู้ติดเชื้อหรือมีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ก็จะเหมือนกับต่างประเทศที่มีการควบคุมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมากับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง หรือผู้ติดเชื้อในชุมชนที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการน้อยๆ แต่ประชาชนไม่ต้องตกใจ ตื่นกลัว อันดับแรกคือคงมาตรการควบคุมป้องกันโรคเข้มข้นเอาไว้

จากการสำรวจทุก 14 วัน พบว่าประชาชนการ์ดตก ตอนนี้ก็ขอให้ยกสูง โดยเฉพาะการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ อีกส่วนหนึ่งคือสถานประกอบการต่างๆ หรือผู้ที่ดำเนินกิจกรรมทางสังคม ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักและมาตรการเสริมอย่างเคร่งครัด รวมถึงกำชับผู้ใช้บริการปฏิบัติตามอย่างเคร่ง ดีกว่าปล่อยให้เกิดการติดเชื้อหรือระบาด

“ยืนยันว่าเราพบผู้ติดเชื้อและรายงาน แต่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด และทำมาตรการเชิงรุกให้ครอบคลุม ดังนั้นจะพยายามค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำให้มากและนำมาดูแลตามมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจว่าถึงแม้จะเจอผู้ติดเชื้อ แต่เราจะควบคุมไม่ให้เกิดการระบาด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว