คดีแรก! เหตุอภิปรายไม่ไว้วางใจ"สุเทพ"ฟ้อง"สุทิน"หมิ่นประมาท
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมทนาย ได้เดินทางเข้ายื่นฟ้อง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.เพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท จากกรณี อภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาล เมื่อวานที่ผ่านมา แล้วพาดพิงถึงเรื่องโครงการโฮปเวลล์ หรือ โครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร
นายสุเทพ เปิดเผยว่า การยกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการโฮปเวลล์เป็นมติ ครม. ก่อนที่ตนจะไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในสมัยนั้น ซึ่งในการอภิปรายนอกจากพาดพิงตนเองให้เกิดความเสียหายกรณีค่าโง่โฮปเวลล์ ยังได้กล่าวหาว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามให้การช่วยเหลือนายสุเทพ เพื่อให้คดีขาดอายุความ ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งการอภิปรายหากพาดพิงให้บุคคลภายนอกสภาแล้วทำให้ได้รับความเสียหาย จะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองผู้อภิปราย ผู้ที่ถูกพาดพิงสามารถฟ้องร้องได้ ตนเองจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง ไว้เป็นกรณีตัวอย่างให้กับนักการเมืองในยุคปัจจุบันว่า การอภิปรายจะต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งศาลรับคำร้องไว้ โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
สำหรับกรณีดังกล่าว ในยุครัฐบาลชวน 2 นายสุเทพ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในขณะนั้น และลงนามยกเลิกสัญญาการก่อสร้างโครงการโฮปเวลล์ ซึ่งต่อมาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้บังคับคดีโฮปเวลล์ ชนะคดีตาม คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ให้ภาครัฐจ่ายเงิน รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ
ซึ่งประกอบด้วยเงินที่บริษัทได้ชำระเป็นค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงก่อนวันบอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 2,850 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38 ล้านบาท และเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด ถืออีกเป็นคดีดัง ค่าโง่โฮปเวลล์ ที่รัฐต้องจ่ายเงินชดเชยจากการผิดสัญญากับภาคเอกชน ซึ่งเป็นเวลาผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว