ดีอีลุยตัดตอนมิจฉาชีพ ปิด 1.7 แสนเว็บไซต์ เพิ่ม 8.6 เท่าตัว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล มุ่งเน้นการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย เพื่อหยุดยั้งช่องทางการกระทำผิดของกลุ่มมิจฉาชีพ
ในช่วงปีงบประมาณ 2567 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงพฤศจิกายน 2567) กระทรวงดีอีได้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้ว 178,609 รายการ หรือเฉลี่ย 12,757 รายการต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 8.6 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 - กันยายน 2566) ที่ปิดกั้นเพียง 17,670 รายการ
ทั้งนี้ สถิติตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2567 เป็นผลมาจากการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเจ้าหน้าที่ดำเนินการเฝ้าระวังและตรวจสอบเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้มาตรา 14 (1) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ เป็นพื้นฐานในการดำเนินคดี
เมื่อพบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย กระทรวงดีอีจะเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และเสนอเรื่องต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา จากนั้นจะยื่นคำขอต่อศาลเพื่อสั่งระงับหรือปิดกั้นการเผยแพร่ข้อมูล โดยขั้นตอนทั้งหมดนี้ดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยกเว้นการตรวจสอบพยานหลักฐานที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ
หลังศาลมีคำสั่ง กระทรวงดีอีจะแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต สำนักงาน กสทช. และแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน พร้อมติดตามผลเพื่อให้มั่นใจว่าการปิดกั้นเป็นไปตามคำสั่ง หากพบว่าผู้ให้บริการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล จะถูกดำเนินคดีและเรียกค่าปรับรายวัน ปัจจุบัน กระทรวงได้เรียกค่าปรับสะสมกว่า 21 ล้านบาท
ภาพจาก: AFP