รีเซต

3 โบรก PST-CGS-CNS เชียร์ “ซื้อ” WICE เคาะเป้า 16-17 บ.

3 โบรก PST-CGS-CNS  เชียร์ “ซื้อ” WICE เคาะเป้า 16-17 บ.
ทันหุ้น
24 พฤศจิกายน 2564 ( 13:43 )
171

ทันหุ้น - 3 โบรกแนะนำ “ซื้อ”WICE ราคาเป้าหมาย 16-17 บาทคาดนิวไฮต่อเนื่องไตรมาส 8 จากปัจจัยหนุนขยายโครงข่ายโลจิสติกส์ รุกรถไฟลาว-จีน ดีมานด์ขนส่งเพิ่มทุกช่องทางดันธุรกิจขนส่งข้ามแดนโตเด่น มองค่าระวางเรือยังอยู่ในระดับสูงถึงกลางปี 65

 

PST แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาปี 65 ที่ 17 บาท

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ได้ระบุในบทวิเคราะห์ว่าในช่วงไตรมาส 3/64 บริษัทมีกำไร 162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 11% ส่วนรายได้ทำนิวไฮที่ 2,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 14% โดยการขนส่งทางทะเลมีรายได้เพิ่มขึ้น 693%จากค่าระวางเรือที่สูงจากตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน และ การขนส่งข้ามแดนมีรายได้เพิ่มขึ้น 119% จากการที่ ETL เพิ่ม Capacity และเพิ่มบริการ ส่งผลให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารก็จะปรับขึ้นตามรายได้ที่ 119.8% และ 114.9% รวมถึงการถือหุ้นใน ETL เพิ่มเป็น 51% ทำให้การรับรู้กำไรใน ETL เพิ่มขึ้น

 

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 คาดว่ายังดีต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปกติการดำเนินงานมักจะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แต่จะมีช่วงวันหยุดใกล้สิ้นปีที่การขนส่งจะชะลอลง ซึ่งยังได้ประโยชน์จากค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ในระดับสูง อาจจะยาวนานไปถึงช่วงกลางปี 65 อีกทั้ง ETL มีแผนที่จะเพิ่มบริการขนส่งทางรถไฟและเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

PST ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับราคาพื้นฐานเป็น 17 บาท จากผลกำไรช่วงไตรมาส 3/64 ที่ดีกว่าคาด และต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/64 อีกทั้งปรับกำไรปี 64 และปี 65 ขึ้นเป็น 501 ล้านบาท และ 554 ล้านบาท และ อิง P/E20 เท่า

 

CGS ยังคงแนะนำ “ซื้อ”ขยับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 16.70 บาท

 

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 4/64 จะโตแข็งแกร่งต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากอุปสงค์การขนส่งทางอากาศ ทะเล และขนส่งข้ามแดนที่แข็งแกร่ง แต่มองว่าจะหดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับไตรมาสก่อน หลังจากค่าระวางปรับลดลงในช่วง พ.ย. 64 โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจขนส่งข้ามแดนจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในปี 65 หลังจากที่มีเที่ยวขนส่งที่น่าประทับใจ ส่วนปัจจัยขับเคลื่อนในธุรกิจนี้คือการเริ่มใช้เส้นทางขนส่งจากมาเลเซียเชื่อมต่อไปยังรถไฟลาว-จีนสายใหม่ ขยายโครงข่ายรองรับบริการ และ การเริ่มบริการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LTL) ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจากค่าระวางเรือที่คาดว่าจะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง 65 ได้ อีกทั้งบริษัทมีแผนแยกสินทรัพย์ธุรกิจขนส่งข้ามแดนและยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (IPO filing) ให้กับ กลต. ภายในไตรมาส 3/65 ขณะที่คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนใน SET ภายในช่วงครึ่งปีหลัง 65 ซึ่ง CGS คาดว่าแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจนี้จะก่อให้เกิดอัพไซด์ระดับหนึ่งต่อกำไรปี 65

 

สำหรับอุปสงค์การขนส่งทางทะเลในไตรมาส 4/64 จะยังแข็งแกร่งไปจนถึงช่วงครึ่งปีแรก 65 ด้วยแรงหนุนการส่งออกไปยังตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ ที่จะยังคงมีอุปสงค์ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว ขณะที่คาดว่าปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะยังดำรงไปอย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรก 65ซึ่งน่าจะทำให้ค่าระวางเรือในช่วงดังกล่าวยืนบนฐานสูงต่อไป

 

นอกจากนี้ CGS ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 64-65 ขึ้น 38% และ 60% ตามลำดับ โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ขณะที่ปรับราคาเป้าหมายพร้อมปีฐานใหม่เป็น 16.70 บาท จาก 14.30 บาท

 

CNS แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16 บาท

 

บริษัท หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)มีมุมมองเป็นกลาง โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 4/64 มีแนวโน้มทำนิวไฮได้ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 จากค่าระวางทางเรือที่อยู่ในระดับสูงจากความต้องการขนส่งที่มากจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และธุรกิจ Cross Border Services ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยตลาดหลักของสองธุรกิจนี้คือกลุ่มลูกค้าในสหรัฐฯ และจีน ส่วนสถานการณ์ขาดแคลนชิปไม่ได้กระทบต่อปริมาณการขนส่งสินค้ากลุ่มยานยนต์มากนัก

 

บริษัทยังมองแนวโน้มค่าระวางเรือว่าจะยังอยู่ในระดับสูงไปถึงช่วงประมาณกลางปีหน้าเนื่องจากความต้องการสินค้าในอเมริกามีปริมาณมากตามภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ในขณะฝั่งของซัพพลายนั้นตู้คอนเทนเนอร์ยังคงขาดแคลน อย่างไรก็ตาม CNS มีมุมมองค่อนข้าง Conservative สำหรับแนวโน้มค่าระวางในปีหน้า เนื่องจากมองว่าค่าระวางของเรือคอนเทนเนอร์น่าจะปรับตัวลดลงหลังสถานการณ์ ท่าเรือที่มีความหนาแน่น (Port Congestion)ที่คลี่คลายตามสถานการณ์โควิดค่อยๆดีขึ้น ผนวกกับซัพพลายของตู้คอนเทนเนอร์ที่ทยอยเพิ่มเข้ามา เช่นเดียวกับทางฝั่งของเรือเทกองที่ดัชนีค่าระวางเรือได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยหากพิจารณาทางด้านของราคาหุ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าราคาหุ้นของ WICE มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์(Correlation) กับราคาหุ้นของกลุ่มเรือเทกองอย่าง PSL และ TTA สูงถึง 0.88 และ 0.68 ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ CNS ได้ปรับประมาณการกำไรปี64 ขึ้นราว 28% จากรายได้ของการขนส่งทางเรือที่ดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าค่อนข้างมาก เนื่องจากค่าระวางเรือที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และปริมาณการขนส่งที่หนาแน่น อย่างไรก็ตามยังคงประมาณการกำไรปี 65-66ไว้เท่าเดิมจากมุมมองต่อค่าระวางเรือที่ค่อนข้าง Conservative ทำให้ยังคงกำหนดราคาเป้าหมายที่ 16.00 บาท อิง PE ที่ 23.5 เท่า

 

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/64ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นต่อเนื่อง บริษัทยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างการเติบโตรอบด้าน โดยการขยายโครงข่ายโลจิสติกส์ให้มีความครอบคลุม พร้อมการเพิ่มบริการที่หลากหลาย รองรับความต้องการขนส่งของลูกค้าที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด และ การบริหารต้นทุนต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดการปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น เช่น ค่าระวางเรือที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรให้อยู่ในระดับดี โดยข้อมูล ณ ไตรมาส 3/64 บริษัทมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.51% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.10%

 

“แม้ค่าระวางเรือจะยังคงมีแนวโน้มที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากปัญหาการจัดการเที่ยวขนส่งและการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ดูเหมือนเป็นการส่งผลดีกับธุรกิจ แต่บริษัทมองว่าเป็นเพียงปัจจัยการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงดำเนินตามแผนที่วางไว้ทั้งในส่วนธุรกิจขนส่งหลัก4 กลุ่มทั้ง ขนส่งทางทะเล,ทางอากาศ,การขนส่งข้ามแดน และ ธุรกิจซัพพลายเชนรวมถึงการลงทุนขยายโครงข่ายโลจิสติกส์ให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อรักษาการเติบโตของรายได้และความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีเสมอ” นายชูเดช กล่าว

 

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 45% ,งานบริการทางอากาศ (Air Freight) 24%, ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service ) 25% , และงานซัพพลายเชน 6%

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง