คอฟฟี่เบรก : ต้องคืน
สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) นำโดย คุณคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ กกพ. ในฐานะโฆษก จัดงานแถลงข่าวผลการพิจารณาของบอร์ด กกพ.ที่มีมติปรับลดผลอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 ลง 0.83 สตางค์ต่อหน่วย
ทำให้ค่าเอฟทีที่เรียกเก็บจะอยู่ที่ -12.43 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงจากงวดก่อนที่เอฟทีอยู่ที่ -11.60 สตางค์ต่อหน่วย และส่งผลให้ค่าไฟที่เรียกเก็บจากประชาชนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.63 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สาเหตุที่ค่าเอฟทีลดลงมาจากต้นทุนราคาพลังงานที่ลดลง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติ แต่ลดลงได้ไม่มาก เพราะปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลงมากเช่นกัน ผิดจากที่คาดการณ์ เป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดย กกพ.ยังยอมรับว่าค่าเอฟทีงวดถัดไปคำนวณยาก เพราะไม่รู้ว่าโควิด-19 จะจบจริงเมื่อไหร่
กระจิบข่าวหลายรายเห็นตัวเลขเอฟทีลดลงจิ๊ดเดียว ไม่ถึง 1 สตางค์ เลยถามทั่นเลขาฯ กกพ.ว่าแบบนี้ไม่ลดได้มั้ย แล้วเอาไปทบยอดงวดถัดไป
เจ้าตัวตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้ๆ อันนี้เป็นเงินของประชาชนต้องคืน”
แหม่…ยืนยันหนักแน่นแม้จะน้อยนิดแต่ยังดีกว่าไม่ได้ลดเลยใช่มั้ยคะ (ฮาาา)