หวังอี้ : จีน-ยุโรป ควรเสริมสร้างการสื่อสาร กระชับความร่วมมือ
จาการ์ตา, 15 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (14 ก.ค.) หวังอี้ นักการทูตอาวุโสของจีน กล่าวว่าจีนและสหภาพยุโรป (EU) ควรเสริมสร้างการสื่อสาร ขยับขยายความไว้วางใจ และกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งเกื้อหนุนผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองฝ่าย
หวัง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน กล่าวขณะพบปะกับโจเซฟ บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของสหภาพยุโรป ในการประชุมนอกรอบของการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย
หวังกล่าวว่าจีนและสหภาพยุโรปไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ขั้นพื้นฐาน ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนลัทธิพหุภาคี โลกแบบหลายขั้วอำนาจและประชาธิปไตยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงระบบสากลที่มีสหประชาชาติ (UN) เป็นแกนกลาง
เนื่องในปีนี้ตรงกับวาระครบรอบ 20 ปี การจัดตั้งความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-สหภาพยุโรป หวังกระตุ้นสหภาพยุโรปชี้แจงจุดยืนของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองฝ่ายเพิ่มเติม และส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรป เดินหน้าบนพื้นฐานที่มีอยู่
ทั้งนี้ หวังเน้นย้ำว่าสหภาพยุโรปมิควรลังเล รวมถึงกลับคำพูดและการกระทำ
ด้าน บอร์เรลล์ กล่าวว่าในอันดับแรกสุดจีนถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป ซึ่งจุดยืนนี้ชัดเจนและแน่นอนมาก โดยสหภาพยุโรปยินดีจะรักษาการมีส่วนร่วมกับจีน และพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวที่มีความสร้างสรรค์และเสถียรภาพ
สำหรับปัญหาไต้หวัน บอร์เรลล์กล่าวว่าสหภาพยุโรปยึดมั่นหลักการจีนเดียวอย่างหนักแน่น ความหมายโดยนัยหลักของหลักการดังกล่าวคือโลกนี้มีเพียงจีนเดียวและไต้หวันไม่ใช่ประเทศ โดยสหภาพยุโรปไม่เคยสนับสนุน "เอกราชไต้หวัน"
(แฟ้มภาพซินหัว : หวังอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน ประชุมร่วมกับโจเซฟ บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของสหภาพยุโรป ณ กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย วันที่ 14 ก.ค. 2023)[/caption]
บอร์เรลล์กล่าวว่าจีนมีบทบาทหลักในกิจการโลก และแผนริเริ่มระดับโลกต่างๆ ของจีนได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง โดยสหภาพยุโรปยินดีจะสำรวจวิธีการต่างๆ ในการเสริมสร้างการประสานนโยบายระหว่างทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมความร่วมมือเชิงปฏิบัติเพื่อบรรลุผลลัพธ์เพิ่มขึ้น
การผลิตและห่วงโซ่อุปทานระดับโลกนั้นสอดประสานกัน ดังนั้นการที่ยุโรปและจีนจะ "แยกตัว" (decouple) จึงไม่สอดคล้องกับความจริงและไม่มีทางเป็นไปได้ โดยสหภาพยุโรปไม่ได้สนับสนุนการเผชิญหน้ากันของระบบพรรคพวกและคู่ขนาน และสหภาพยุโรปไม่ได้มีเจตนาขัดขวางการพัฒนาของจีน
ด้านหวังเน้นย้ำว่าจีนมุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจแบบเปิดในระดับสูงขึ้นและจะยังคงแบ่งปันโอกาสของตลาดขนาดใหญ่สู่โลก
จีนสนับสนุนสหภาพยุโรปในการแสวงหาความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์และทำการตัดสินใจที่เป็นอิสระ และพร้อมทำงานร่วมกับสหภาพยุโรปเพื่อเสริมข้อได้เปรียบซึ่งกันและกัน และเชื่อมโยงแผนริเริ่มระดับโลกต่างๆ ซึ่งกันและกัน ซึ่งรวมถึงแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) และยุทธศาสตร์ประตูสู่โลก (Global Gateway) ของสหภาพยุโรป
หวังกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันคุ้มครองโลกาภิวัฒน์และระบบการค้าเสรี ด้วยการปรับใช้วิธีการอันเปิดกว้างและครอบคลุม พร้อมคัดค้านลัทธิกีดกันและการกลั่นแกล้งเพียงฝ่ายเดียว
ขณะเดียวกันหวังเรียกร้องการป้องกันการใช้ประเด็นทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นทางการเมืองและเครื่องมือ และการใช้ "การลดความเสี่ยง" (derisking) เป็นอีกนิยามของ "การแยกตัว" (decoupling)
อนึ่ง นักการทูตอาวุโสทั้งสองยังแลกเปลี่ยนมุมมองต่อประเด็นยูเครน โดยหวังกล่าวว่าจีนสนับสนุนสถาปัตยกรรมความมั่นคงของยุโรปที่มีความสมดุล ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน และจะยังคงส่งเสริมการหารือเพื่อสันติภาพและดำเนินบทบาทอันสร้างสรรค์ในการแสวงหาวิธีทางการเมืองในการจัดการวิกฤตยูเครน