สแกน BCP ไปต่อ! หรือพอก่อน?
#ทันหุ้น - บล.แลนด์ แอน เฮ้าส์ ส่องหุ้น BCP แนวโน้ม Q4/66F แข็งแกร่งต่อเนื่องจากกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นมาก การรับรู้กำไรจาก BSRC เต็มไตรมาส ยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และได้ประโยชน์จากราคาก๊าซในยุโรปเพิ่มขึ้น โดยคาดเห็น Synergy จากดีลเข้าซื้อ BSRC เร็วๆนี้ และคาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน 1-2 ปี ข้างหน้า ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง แม้ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพิ่มโอกาสการทำ M&A ในอนาคตยังไม่แพง เมื่อเทียบกับ ROE ที่เพิ่มขึ้น; คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ประเด็นการลงทุน
แนวโน้ม Q4/66F แข็งแกร่งต่อเนื่อง BCP ได้ให้ภาพแนวโน้มการดำเนินงาน Q4/66F ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ว่าค่าการกลั่น SG GRM Q4/66F จะลดลงมาก QoQ ก็ตาม ธุรกิจโรงกลั่นจะถูกหนุนด้วยกำลังการกลั่นของ BCP เพิ่มขึ้นจาก 116 พันบาร์เรล/วัน (KBD) เป็น 120 KBD ร่วมกับกำลังการกลั่นของ BSRC (ESSO เดิม) เพิ่มขึ้นมากจาก 48 KBD เป็น 122 KBD เนื่องจากใน Q3/66A โรงกลั่น BSRC หยุดผลิตราว 1.5 เดือนเพื่อซ่อมบำรุง และติดตั้งอุปกรณ์รองรับมาตรฐานน้ำมัน Euro 5 และการรับรู้ กำไรเต็มไตรมาส (เทียบกับ 1 เดือนใน Q3/66A) ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น +8-10%QoQ ตามความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูท่องเที่ยวร่วมกับมาร์จิ้นดีขึ้น
ธุรกิจโรงไฟฟ้า (BCPG) จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และเป็นช่วงค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามราคาก๊าซ Henry Hub และ ธุรกิจ E&P (OKEA) ตามปริมาณขุดเจาะเพิ่มขึ้นและคาดราคาก๊าซในยุโรป +24%QoQ ตามความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว
อัพเดท Synergy จากดีลการเข้าซื้อ BSRC หลังจาก BCP เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BSRC ราว 3 เดือน ผู้บริหารยืนยันว่าจะเห็น Synergy เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะด้าน Logistics & Crude Supply ที่สามารถรวมปริมาณการสั่งน้ำมันของทั้งสองโรงกลั่นและบริหาร Crude Sources เพื่อให้ต้นทุนลดลงได้ทันที
นอกจากนั้น Synergy ยังเกิดจาก 1) การเพิ่มกำลังการกลั่นของ BSRC ขึ้นจากเดิม 130 KBD ซึ่งมีช่องว่างให้ขยายได้ถึง 174 KBD (กำลังผลิตเต็มที่) ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันใช้น้ำมันจากโรงกลั่น BSRC แทนที่การนำเข้า; 2) การเพิ่มกำไรของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันผ่านการเพิ่มยอดขายต่อสถานีการเพิ่มปริมาณขายน้ำมันพรีเมียม และการขยายธุรกิจ Non-oil; และ 3) การลดค่าใช้จ่ายดำเนินงานลง -1.5 พันลบ. ทั้งนี้ BCP จะอัพเดทแผนกลยุทธ์การทำงานร่วมกันอีกครั้ง โดยคาดว่าจะมี Synergy ร่วมกันผ่านการเพิ่ม EBITDA ได้2.5 พันลบ. ในปี หน้า และอย่างน้อย 3 พันลบ./ปีตั้งแต่ปี 68 เป็นต้นไป
ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง แม้ต้องใช้เงินจำนวนมาก ใน Q3/66A แม้ BCP ต้องใช้เงินถึง 2.6 หมื่นลบ. ในการซื้อหุ้น BSRC แต่ปรากฏว่า BCP กู้ยืมเงินเพิ่มเพียง 8 พันลบ. โดยส่วนที่เหลือใช้เงินสดในมือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นแหล่งเงินทุน เมื่อรวมกับส่วนของผู้ ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นมากจากกำไร 3Q66A ที่สูงเป็นประวัติการณ์ (ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นมาก และบันทึกกำไรจากการเจรจาต่อรองซื้อ BSRC) ทำให้อัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้นน้อยกว่าประมาณการเดิม Net IBD/E เพิ่มจาก 0.4x เป็ น 0.8xและ Net IBD/EBITDA เพิ่มจาก 1.1x เป็น 2.0x โดยหากเปรียบเทียบ Net IBD/E 0.8x กับข้อกำหนดในออกหุ้นกู้ที่ 2.0x ทำให้มองว่ายังมีโอกาสสำหรับการทำ M&A เพิ่มเติมในอนาคต
คำแนะนำ
ยังไม่แพง เมื่อเทียบกับ ROE ที่เพิ่มขึ้น; คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้น BCP ปรับขึ้นเด่นสุดในกลุ่มพลังงาน +40%YTD แต่ฝ่ายวิจัยมองว่ายังไม่แพง ด้วยยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีและเมื่อเทียบกับ ROE (Core) ที่เพิ่มขึ้นเป็น 13% ขณะเดียวกันก็มีประเด็นบวกหลายประการรออยู่โดยเฉพาะ Synergy ที่เกิดขึ้นจากการเข้าไปบริหารจัดการ BSRC รวมถึงแรงซื้อจากต่างชาติและ NVDR ยังมีต่อเนื่อง คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ปัจจัยเสี่ยง
ภาวะเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมัน ภาวะชะลอตัว/ชะงักงันของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลก ค่าการกลั่น ปริมาณขายต่ำกว่าประมาณการ รวมถึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน