ทรัมป์ตำหนิเซเลนสกีทำลายการเจรจาสันติภาพด้วยคำพูดที่ยั่วยุ

ทรัมป์ กล่าวหาประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่าทำลายการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครน ด้วย “คำพูดที่ยั่วยุ” โดยผู้นำยูเครน แถลงข่าวในวันอังคารที่ผ่านมาว่า ยูเครนจะไม่ยอมรับกรณีรัสเซียควบคุมไครเมีย ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ทรัมป์บอกว่า “ไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้น นอกจากความขัดแย้งจะยืดเยื้อออกไป” 

ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เผยแพร่ทาง Truth Social โซเชียล มีเดียของเขา มีขึ้นหลังจากรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯจะ "ถอนตัว" จากบทบาทในการทำข้อตกลง หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

ทั้งนี้ เนื้อหาใจความสำคัญของข้อเสนอของสหรัฐฯในการยุติความขัดแย้งนั้น ซึ่งตามที่มีกระแสข่าวออกมาในช่วงไม่กี่วัน เกี่ยวข้องกับการยอมรับคาบสมุทรไครเมีย ที่รัสเซียผนวกเอาเป็นดินแดนของตนเองโดยไม่ถูกกฎหมายในปี 2557 ให้เป็นดินแดนโดยชอบธรรมของรัสเซีย ซึ่งทางเซเลนสกี กล่าวว่า เรื่องนี้ขัดรัฐธรรมนูญยูเครน

ทรัมป์ ตอบโต้ว่า ถ้อยแถลงดังกล่าว เป็นอันตรายต่อการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียอย่างมาก พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า มันจะทำให้ “ทุ่งสังหาร” ยืดเยื้อออกไป คำกล่าวของเซเลนสกีเป็นคำกล่าวที่ยั่วยุ ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการยุติสงครามครั้งนี้ 

ส่วนเซเลนสกียอมรับเมื่อวานนี้ (23 เมษายน) ว่า การเจรจาในกรุงลอนดอนเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และแสดงความหวังว่าการทำงานร่วมกันในอนาคตจะนำไปสู่สันติภาพ

เซเลนสกี เขียนข้อความผ่าน X ว่า “วันนี้มีอารมณ์ร่วมสูง แต่เป็นเรื่องดีที่ทั้ง 5 ประเทศได้ประชุมกันเพื่อขยับเข้าใกล้สันติภาพมากยิ่งขึ้น ฝ่ายอเมริกาได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ของตน ยูเครนและยุโรปอื่นๆ ได้นำเสนอข้อมูลของตน”

เซเลนสกีให้คำมั่นว่า ยูเครนจะยึดมั่นรัฐธรรมนูญของตน และว่า เขาเชื่อว่า พันธมิตรตะวันตกของยูเครน ซึ่งรวมทั้งสหรัฐฯ จะดำเนินการตามแนวทางนี้ด้วย "การตัดสินใจที่เด็ดขาด" ซึ่งนั่นเป็นการพาดพิงถึงสหรัฐฯที่วิจารณ์คำกล่าวของเซเลนสกีที่ว่าการยอมรับการควบคุมคาบสมุทรไครเมียของรัสเซียจะขัดต่อรัฐธรรมนูญของยูเครน

ด้านคีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษของทรัมป์ฝ่ายกิจการยูเครน กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ในกรุงลอนดอน กับอังดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าเจ้าหน้าที่เจรจาของเซเลนสกี