นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ มุ่งปราบอบายมุข-แก้ปัญหาความเดือดร้อนของปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมอบนโยบายกำชับการทำงานให้กับตำรวจระดับผู้บัญชาการขึ้นไปทั่วประเทศ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ให้การต้อนรับ 

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตำรวจเน้นทำงานแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนทุกเรื่อง เช่น ลดการแพร่ระบาดของยาเสพติด แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ผู้มีอิทธิพล ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เห็นการบริหารจัดการได้ดีพอ โดยเฉพาะเมื่อยังมีผู้มีอิทธิพล ทำให้ลูกหนี้ไม่อยากเข้าสู่การประนอมหนี้ 

ขณะเดียวกันเรื่องอาวุธเถื่อน บ่อนพนัน พนันออนไลน์ แหล่งอบายมุขต้องปราบปรามให้หมด เพราะประชาชนให้ความสำคัญเนื่องจากนำหายนะมาสู่สังคมไทย รวมไปถึงการปราบปรามลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนหนีภาษี แรงงานต่างด้าว และคอยดูแลอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ไม่ให้มีไกด์เถื่อนมาเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งเรื่องนี้แต่ละพื้นที่ย่อมรู้อยู่แล้วว่าใครทำอะไรอยู่

ส่วนปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM 2.5 การเผาป่า เป็นงานที่ฝ่ายความมั่นคงต้องทำควบคู่ไปด้วย โดยขอให้ประสานงานร่วมกับทุกหน่วย เช่นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาในส่วนของตำรวจ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ เริ่มจับกุมคนเผาป่าและมีรางวัลนำจับเป็นตัวอย่างที่ดี และเชื่อว่าตำรวจมีอำนาจน่าจะออกกฎเฉพาะกิจในแต่ละพื้นที่ไม่ให้เกิดการเผาป่าได้ ซึ่งนโยบายทุกเรื่องที่ได้มอบหมายมีความสำคัญเร่งด่วนเท่ากันหมด เพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกันออกไป สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ขอให้อย่าละเลยดูแลสวัสดิการของตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย ที่สำคัญขอข้าราชตำรวจมีความสามัคคีต่อกัน ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่เซ็นคำสั่งย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ว่ายังไม่ได้มอบหมายหน้าที่ให้รับผิดชอบชัดเจน และเชื่อว่าตำรวจจะเข้าใจ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม มั่นใจว่าคณะะกรรมการสอบสวน 3 คนที่ตั้งขึ้นมาจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่มีการถูกแทรกแซง และขอยืนยันว่าตอนนี้ทั้งพล.ต.อ. ต่อศักดิ์ และพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ หากพิสูจน์แล้วว่าไม่มีปัญหาก็กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม พร้อมขอให้สังคมสบายใจได้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังสามารถเดินไปข้างหน้าได้

ด้านพล.ต.อ. กิตติ์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.กล่าวภายหลังรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ว่า จะเดินหน้าปฏิบัติตามข้อสั่งการทั้งหมดที่นายกมอบหมายอย่างจริงจัง และจะทำหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขอยู่ดีกินดีของ ประชาชน