หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 23 กรกฎาคม 2568 ปิดบวก 179 จุด จับตาผลประกอบการ

ดาวโจนส์ปิดบวก 179 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการ-การค้าโลก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันอังคาร (22 ก.ค. 2568) ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับหลายประเทศ

สรุปตัวเลขดัชนีตลาดหลัก

- ดาวโจนส์ ปิดที่ 44,502.44 จุด เพิ่มขึ้น 179.37 จุด หรือ +0.40%

- S&P500 ปิดที่ 6,309.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.02 จุด หรือ +0.06% (ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่)

- Nasdaq ปิดที่ 20,892.68 จุด ลดลง 81.49 จุด หรือ -0.39%

จับตาผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่

นักลงทุนกำลังรอรายงานผลประกอบการจากบริษัทในกลุ่ม “Magnificent Seven” ที่มีมูลค่าตลาดสูง ได้แก่ Tesla, Alphabet, Meta, Microsoft ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการทำจุดสูงสุดของ S&P500

เจรจาการค้าสหรัฐฯ กับหลายประเทศเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

- ข้อตกลงกับฟิลิปปินส์: สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากฟิลิปปินส์ 19% ขณะที่ฟิลิปปินส์ยกเว้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ และเปิดตลาดเสรีให้

- จีน: รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตรียมหารือกับจีนสัปดาห์หน้าในกรุงสตอกโฮล์ม เพื่อขอขยายเส้นตายเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนที่กำหนดไว้ 12 ส.ค.

- อินเดีย: การเจรจาไม่คืบหน้า คณะผู้แทนเดินทางกลับกรุงนิวเดลีแล้ว

- EU: เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปเตรียมมาตรการตอบโต้ หากสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าจากยุโรป 30% ภายในเส้นตาย 1 ส.ค.

ผลกระทบต่อหุ้นรายตัว

• หุ้นบวก:
  • Tesla +1.1%
  • Alphabet +0.65%
• หุ้นลบ:
  • General Motors (GM) -8.1% จากผลกระทบภาษีศุลกากรกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
  • Ford -1%
  • Meta และ Microsoft -ประมาณ 1%
  • Lockheed Martin -เกือบ 11% จากกำไรไตรมาสลดลง 80%
  • Philip Morris -8.43% จากรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2568

S&P500 เคลื่อนไหวแตกต่างตามกลุ่มธุรกิจ

• กลุ่มบวก:
  • กลุ่มเฮลธ์แคร์ +1.90%
  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ +1.78%
• กลุ่มลบ:
  • กลุ่มเทคโนโลยี -1.08%
  • กลุ่มบริการด้านการสื่อสาร -0.31%

เจอโรม พาวเวล ชี้ธนาคารต้องมีทุนเพียงพอ - งดพูดนโยบายการเงิน

เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวเปิดการประชุมเกี่ยวกับเงินกองทุนของธนาคารขนาดใหญ่ โดยเน้นย้ำความจำเป็นของการบริหารความเสี่ยงและแข่งขันอย่างเสรี แต่ ไม่ได้กล่าวถึงทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากเข้าสู่ช่วง “Blackout Period” ก่อนการประชุม FOMC วันที่ 29–30 ก.ค. นี้