อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ​ มอง "สี จิ้นผิง" เท่านั้นที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

“ไมค์ ปอมเปโอ” อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) ว่าความพยายามในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะเกิดขึ้นตามแนวทางและการอนุญาตจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เท่านั้น โดยที่ปอมเปโอยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการยับยั้งไม่ให้จีนใช้เกาหลีเหนือเป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์เพื่อต่อรองทางการเมือง

คำกล่าวของปอมเปโอเกิดขึ้นในขณะที่เขาเข้าร่วมการประชุมที่จัดขึ้นโดย D&A LLC บริษัทกฎหมายของเกาหลีใต้ หลักจากมีผู้ถามคำถามว่าเขาจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความคืบหน้าที่จะกลับไปสานสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนืออีกครั้ง ซึ่งปอมเปโอได้เล่าย้อนถึงบทบาทของเขาในการเจรจาด้านนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือในสมัยรัฐบาลสมัยแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนเกิดเป็นการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างทรัมป์และคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือเมื่อปี 2019 แต่ปอมเปโอยอมรับว่าการเจรจานิวเคลียร์ในขณะนั้นท้ายที่สุดก็ “ไม่ประสบความสำเร็จ”

ปอมเปโอ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าจากประสบการณ์ของเขา คิม จอง-อึน ไม่ได้ มีเสรีภาพมากนักในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ โดยให้เหตุผลว่าเพราะจีนและเกาหลีเหนือต่างเชื่อมโยงกัน “อย่างลึกซึ้ง” เขากล่าวด้วยว่าปัจจุบันไม่มี “แรงจูงใจเชิงบวก”ที่จะโน้มน้าวให้ประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบนี้ยอมสละโครงการนิวเคลียร์ของตน แม้ว่าคิมอาจต้องการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หากการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ กลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง และหากความคิดที่ต้องการให้นิวเคลียร์หมดไปจากเกาหลีเหนือ มันจะเกิดขึ้นได้ด้วยการอนุญาตจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เท่านั้น นอกจากนี้ ปอมเปโอยังมองว่าการพูดคุยกับผู้นำคิม แม้ว่าจะน่าสนใจ แต่การพูดคุยนี้ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก

อย่างไรก็ตาม ปอมเปโอยังได้เล่าย้อนถึงช่วงเวลาที่เขาได้พบกับคิม จอง-อึน แบบซึ่งหน้า พร้อมกับทรัมป์โดยที่ปอมเปโอเรียกคิมว่า เขาเป็นคนที่ “น่ารังเกียจและโหดร้าย” ปอมเปโอกล่าวด้วยว่า คิมไม่ใช่คนหยาบคาย แต่คิมเชื่อว่าคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมดเป็นของเขา คิมยังเชื่อว่าพวกเขาถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมจึงทำให้คิมตั้งใจอย่าวแน่วแน่ที่จะหาวิธีเอาทุกอย่างกลับคืนมา แต่เขายังมีเพื่อนซึ่งก็คือจีนเช่นกัน

ทั้งนี้ ปอมเปโอยังได้พูดถึงการที่ทรัมป์อนุมัติที่จะจัดหาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้เกาหลีใต้เมื่อไม่นานมานี้ โดยเขาคิดว่ามันสามารถเป็นไปได้ และเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคในสภาคองเกรสสำหรับความร่วมมือเพิ่มเติมในประเด็นนี้เช่นกัน