บลูมเบิร์กชี้ ข้อกังวลเรื่องกำลังผลิตรถอีวี-แผงโซลาร์เซลล์จีน 'ล้นเกิน' ไร้ข้อมูลสนับสนุน
(แฟ้มภาพซินหัว : รถยนต์คันที่ 7,000,000 ของบริษัทบีวายดี (BYD) ผู้ผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของจีน ออกจากสายการผลิต วันที่ 25 มี.ค. 2024
วอชิงตัน, 7 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (3 เม.ย.) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความวิตกกังวลของสหรัฐฯ และยุโรปว่ากำลังการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและแผงโซลาร์เซลล์ที่ล้นเกินของจีน อาจทำลายหลายอุตสาหกรรมในต่างประเทศนั้น เป็นข้อกังวลที่ไม่ได้ยึดโยงกับข้อมูลตัวเลขรายงานข่าวดังกล่าวระบุว่า สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ปัญหาที่แท้จริงของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วคือการที่ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากกว่า เนื่องมาจากเทคโนโลยี ห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่น โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งใหม่ๆ ตลอดจนต้นทุนด้านพลังงานและที่ดินที่ต่ำกว่ารายงานระบุว่า "จากมุมมองของประเทศอื่นๆ กำลังการผลิตที่ล้นเกินนั้นสามารถสัมผัสได้จากราคาที่ต่ำกว่า ยานยนต์ส่งออกของจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้วเพราะจีนแซงหน้าญี่ปุ่นกลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลก จริงๆ แล้วมีราคาสูงขึ้น ชี้ให้เห็นว่าความน่าดึงดูดใจของยานยนต์จีนที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้มาจากจากการลดราคา" รายงานเสริมด้วยว่าบริษัทจีนไม่ได้ทุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีนมีราคาขายเฉลี่ยในตลาดยุโรปสูงกว่าราคาขายในประเทศราวๆ สองเท่าด้านแผงโซลาร์เซลล์ รายงานระบุว่า เป็นไปได้ที่ในอนาคตนั้นอุปสงค์อาจเติบโตสูงเกินคาด ความเป็นไปได้ในการประเมินต่ำเกินไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์สีเขียว เนื่องจากเป้าหมายในการลดคาร์บอนอาจถูกเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไปรายงานข่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่อุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งกำลังพัฒนาเทคนิคใหม่ๆนั้น กำลังการผลิตใหม่มักจะมาแทนที่กำลังการผลิตเก่า มากกว่าที่จะเป็นการดำรงอยู่ด้วยกันแอนโทนี แวกเนอร์-โจนส์ (Antoine Vagneur-Jones) นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กเอ็นอีเอฟ (BloombergNEF) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการวิจัย กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า "โรงงานเก่าๆ นั้นล้าสมัยไปแล้ว และบริษัทใดก็ตามที่ไม่ได้เข้ามาแทนที่โรงงานเหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะล้มเหลว นี่เป็นข้อโต้แย้งประการหนึ่งในประเด็นเรื่องระดับของการลงทุนที่สูงเกินไป"