ชาวบ้านแฉอีก เจ้าอาวาสรื้อเมรุ เป็นจอมขมังเวทย์ ใช้โบสถ์ทำพิธี ด้านเจ้าอาวาสแจง ปัดทำพิธีคุณไสย

ชาวบ้านแฉอีก เจ้าอาวาสรื้อเมรุ เป็นจอมขมังเวทย์ ใช้โบสถ์ทำพิธีผัวรักผัวหลง ด้านเจ้าอาวาสชี้แจง แค่พิธีสะเดาะสะเคราะห์ ปัดทำคุณไสย

ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านรวมตัวกันที่วัดสว่างอารมณ์ หรือวัดบ้านยาง จ.บุรีรัมย์ เพื่อคัดค้านไม่ให้มีการรื้อเตาเผาในเมรุ ทำให้ช่างที่เดินทางมาจ.นครสวรรค์ ต้องยุติการดำเนินงานไว้ก่อนนั้น

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่วัดสว่างอารมณ์ หรือวัดบ้านยาง จ.บุรีรัมย์ ชาวบ้านไผ่น้อยและชาวบ้านยาง กลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่วัดเพื่อต้องการบีบให้เจ้าอาวาสวัด อายุ 57 ปี ย้ายออกไป

เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าอาวาสนำช่างรื้อเตาเผาในเมรุ เพื่อจะทำการเปลี่ยนเตาเผาใหม่ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของเจ้าอาวาสรูปเดิมที่มรณภาพไปว่า จะมีการสร้างเตาเผาอีก 1 เตาคู่กันกับเตาเดิม

จนมีการลุกลามไปถึงอยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ตรวจสอบบัญชีของวัดที่ชาวบ้านติดใจว่าอาจจะไม่โปร่งใสมานานกว่า 8 ปีและล่าสุดงานกฐินที่ผ่านมา มีเงินเข้าวัดกว่า 1.6 แสนบาท แต่ไม่เอาเงินเข้าบัญชีวัด กลับเอาเข้าบัญชีตัวเอง

กระทั่งเจ้าอาวาสได้ออกมายอมรับว่าเงินกฐินดังกล่าว เอาไปใช้ส่วนตัวจริง โดยอ้างว่า ชาวบ้านบางกลุ่มอนุญาตให้เอาเงินไปใช้ส่วนตัวได้ เพราะหลวงพ่อบวชมาทั้งชีวิตแล้ว

ต่อมาพระครูปริยัตินิเทศ พระเลขาเจ้าคณะอำเภอ พร้อมด้วยนางภัทรานิษฐ จริยาโสวรรณ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่รวมตัวกันอยู่ในวัด

โดยเลขาเจ้าคณะอำเภอ กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทุกเรื่อง ทั้งการเงินและพฤติกรรมต่างๆ ที่ชาวบ้านร้องเรียน โดยเฉพาะข้อเรียกร้องให้เจ้าอาวาสออกจากพื้นที่ จะเอาไปพิจารณาก่อน ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

นางบุษบา อายุ 47 ปี ประธาน อสม. หมู่ 9 ต.อิสาณ กล่าวว่า นอกจากเจ้าอาวาสจะมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสแล้ว ยังทำตัวเป็นจอมขมังเวทย์ ใช้โบสถ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ มาเป็นสถานที่ทำพิธี ชาวบ้านต้องแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน

ที่ผ่านมามีคนหลงเชื่อ เข้ามาทำพิธีทางไสยศาสตร์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหญิงสาวที่อยากให้ผู้ชายหรือสามีมาหลงรัก หรือที่เรียกว่า ”ผัวรักผัวหลง” มักจะแอบมาทำพิธีกันเป็นประจำ จนชาวบ้านส่วนใหญ่รับไม่ได้ แต่ไม่มีโอกาสจะเรียกร้อง

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามเจ้าอาวาสวัดที่ถูกกล่าวหาซึ่งได้ออกจากวัดไปก่อนหน้านี้ ไปอยู่วัดอื่นชั่วคราว โดยท่านกล่าวถึงกรณีพิธีกรรมที่ชาวบ้านกล่าวหา ว่า เป็นวิชาที่อาตมารับมาจากครูบาอาจารย์ แต่ไม่ได้ทำทุกวัน

เป็นเรื่องธรรมของพระสายเกจิอาจารย์ ยืนยันไม่ได้ทำคุณไสย แต่เป็นเมตตามหานิยม เพราะอาตมาเป็นหลานหลวงปู่สุข ธัมมโชโต ยอมรับว่ามีผู้หญิงมาทำบ้างแต่แค่สะเดาะเคราะห์เท่านั้น มีเสริมดวง ปิดทอง ส่วนจะดีหรือไม่อาตมาไม่รู้ เพราะญาติโยมร้องขอมาก็ทำไป