สหรัฐฯ ยึดเรือน้ำมันเวเนซุเอลาอีกครั้ง ลำที่สองในเดือนนี้

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าว CBS ว่า สหรัฐฯ ยึดเรือที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรลำหนึ่งในน่านน้ำสากลนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) นับเป็นครั้งที่สองในเดือนนี้ที่สหรัฐฯ ยึดเรือบริเวณนอกชายฝั่งของเวเนซุเอลา โดยความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า เขาได้สั่งให้ “ปิดล้อม” เรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร ทั้งเข้าและออกจากเวเนซุเอลา

จนถึงขณะนี้เวเนซุเอลายังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการยึดเรือล่าสุดของสหรัฐฯ แต่ก่อนหน้านี้เคยกล่าวหาว่า สหรัฐฯ พยายามขโมยทรัพยากรน้ำมันของประเทศ

CBS รายงานว่า ปฏิบัติการดังกล่าวนำโดยหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ คล้ายกับปฏิบัติการเมื่อต้นเดือน โดยมีหน่วยยุทธวิธีเฉพาะทางขึ้นตรวจค้นเรือ

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เพิ่มกำลังทหารในทะเลแคริบเบียน และได้ดำเนินการโจมตีเรือที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนยาเสพติดของเวเนซุเอลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 100 ราย

สหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยหลักฐานต่อสาธารณะว่าเรือเหล่านี้บรรทุกยาเสพติดจริงหรือไม่ และกองทัพกำลังถูกจับตามองมากขึ้นจากสภาคองเกรสเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว

สหรัฐฯ กล่าวหาประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลาว่า เป็นผู้นำองค์กรที่ถูกจัดให้เป็นองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเรียกว่า “คาร์เทล เด โลส โซเลส” แต่ข้อกล่าวหานี้ถูกมาดูโรปฏิเสธ

รัฐบาลทรัมป์กล่าวหาว่า มาดูโรและกลุ่มดังกล่าวใช้น้ำมันที่ขโมยมาเพื่อจัดหาเงินทุนให้กับตนเอง รวมถึงการก่อการร้ายด้านยาเสพติด การค้ามนุษย์ การฆาตกรรม และการลักพาตัว

เวเนซุเอลาซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันพิสูจน์แล้วมากที่สุดในโลก พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันอย่างมากในการใช้จ่ายของรัฐบาล

การประกาศ “ปิดล้อม” ของทรัมป์เกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากสหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “กองเรือผี” ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อปกปิดการดำเนินงาน

ทำเนียบขาวระบุว่า เรือดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า Skipper มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “การขนส่งน้ำมันอย่างผิดกฎหมาย” และจะถูกนำไปยังท่าเรือของสหรัฐฯ

รัฐบาลเวเนซุเอลาประณามการกระทำดังกล่าว โดยประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวว่าสหรัฐฯ ได้ “ลักพาตัวลูกเรือ” และ “ขโมยเรือ” ไป