ฝรั่งเศสเตรียมใช้วัคซีนพาสปอร์ต เตรียมบังคับใช้เป็นกฎหมาย หากสภาอนุมัติ
France: รัฐสภาฝรั่งเศสอนุมัติเริ่มการใช้หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน หรือพาสปอร์ตวัคซีน ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของประชาชน เพื่อรับมือโควิด-19 ระบาด หลังการประนีประนอมระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติจากสภาล่างและวุฒิสภา โดยไม่สนใจเสียงประท้วงของประชาชนบางส่วนในประเทศ
สมาชิกสภานิติบัญญัติจากสภาล่างและวุฒิสภาของฝรั่งเศส ประชุมกันแบบมาราธอนตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว (20 กรกฎาคม) เพื่ออภิปรายในประเด็นการใช้หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน หรือพาสปอร์ตวัคซีน โดยมีการเพิ่มรายละเอียดและข้อบังคับต่าง ๆ เข้าไปในเนื้อหากฤษฎีกาฉบับนี้
หลังจากหารือยาวเหยียด 3 ชั่วโมง สมาชิกสภาล่างที่มีสมาชิกพรรครัฐบาลครองเสียงข้างมาก และสมาชิกวุฒิสภาที่มีพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ก็สามารถประนีประนอมกันได้ในประเด็นนี้ และผ่านร่างกฎหมายเริ่มการใช้หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน หรือพาสปอร์ตวัคซีน ด้วยคะแนน156 ต่อ 60 และไม่ออกเสียง 14 คะแนน
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายนี้ยังคงต้องผ่านการรับรองจากสภารัฐธรรมนูญของฝรั่งเศส ก่อนบังคับใช้เป็นกฎหมาย
เนื้อหาของกฎษฎีกาฉบับนี้ คือตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ผู้ที่จะเข้าใช้บริการตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์ คาเฟ่ ห้องสมุด โรงภาพยนตร์ สระว่ายน้ำ สนามกีฬา พิพิธภัณฑ์ รวมถึงบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสาร รถไฟ รถใต้ดิน และเครื่องบิน จะต้องแสดงพาสปอร์ตวัคซีน ว่าได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว หากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ต้องแสดงเอกสารว่ามีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบในช่วงเวลา 72 ชั่วโมง หรือเอกสารที่แสดงว่าฟื้นจากการป่วยโควิด-19 แล้ว
นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังบังคับให้เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทุกคนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็มตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ไม่เช่นนั้นอาจถูกพักงาน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ออกคำสั่งว่า หนังสือรับรองสุขภาพที่ยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วหรือมีผลตรวจเป็นลบ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเข้าถึงบริการและสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และเป็นความพยายามของมาครง ที่จะทำให้การฉีดวัคซีนเป็นอาวุธหลักในการรับมือโควิด-19 ในขณะที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ กำลังปรากฏขึ้นมา
อีกทั้ง ยังเป็นการบีบให้ประชาชนต้องรับการฉีดวัคซีน หากต้องการใช้ชีวิตตามปกติ ช่วยลดแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขในประเทศ และช่วยลดความเสี่ยงที่จะต้องประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในอนาคต
อย่างไรก็ดี ความพยายามผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว นำมาซึ่งเสียงประท้วงต่อต้านจากประชาชนบางส่วนที่ออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงในกรุงปารีส และอีกหลายเมืองทั่วประเทศตลอดหลายวันที่ผ่านมา การประท้วงรุนแรงจนกลายเป็นเหตุจลาจล มีการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล จนมีผู้ประท้วงถูกจับกุมหลายสิบคน ซึ่งพวกเขาเห็นว่า วัคซีนพาสปอร์ตขัดต่อเสรีภาพพลเรือนและละเมิดสิทธิทางร่างกายของพวกเขา
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 แล้วมากกว่า 110,000 คน และปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อวันละกว่า 20,000 คน เทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อไม่กี่พันคนต่อวันเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา