TKN "ทิสโก้" คาดผลงานครึ่งปีหลังอ่อนตัว ต้นทุนสาหร่ายยังสูง เป้า consensus 12.37 บ.
#ทันหุ้น - บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ สรุป TISCO Corporate Day (04/10/24) หุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN มีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมครั้งนี้ จากต้นทุนสาหร่ายปีหน้าคาดจะทรงตัวแม้ว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นแต่ demand ที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันจากปีนี้ที่มีราคาสูงและไม่มีการสั่งสต็อกสาหร่าย อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการปรับกลยุทธ์เน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นและมีการขยายช่องทางจำหน่ายในสหรัฐฯ ช่วยหนุนยอดขายเพิ่มขึ้น Settrade consensus แนะนำ Buy/Hold/Sell : 2/1/0 ราคาเป้าหมายเฉลี่ย consensus 12.37 บาท, Forward PER 18.7X, PER trailing 14.9X
ทั้งนี้ ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้น 10%YoY ขยายช่องทางจำหน่ายอเมริกาเพิ่มขึ้น และตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้น 10%YoY และตั้งเป้ากำไรจะไม่ต่ำกว่าปี 2566 ที่ 750 ล้านบาท แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังอ่อนกว่าครึ่งปีแรกจากต้นทุนสาหร่ายที่แพงขึ้น บริษัทมีนโยบายการบริหารจากการเน้นสินค้าที่มีอัตรามาร์จิ้นดีกว่าเพิ่มขึ้นจาก product mix เช่นเน้นจำหน่ายสาหร่ายอบเพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นสูงกว่าสาหร่ายแบบย่างที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าจากต้นทุนการใช้แรงงานที่มากกว่า สำหรับราคาขายบริษัทมีการปรับราคาสินค้าในอเมริกาในช่วงโควิดจากค่าเดินเรือที่แพงขึ้น และในประเทศอินโดนีเซียมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ Q4/66 บริษัทวางแผนขยายช่องทางจำหน่ายในสหรัฐฯ เข้า Walmart 600 สาขา ในเดือนต.ค.นี้
ต้นทุนราคาสาหร่ายที่ปรับเพิ่มขึ้น 50% จากต้นทุนราคาสาหร่ายเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดจากปี 2560 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากปัญหาภัยแล้งเอลนีโญ กระทบผลผลิตสาหร่ายลดลงมากกว่า 50% เกิดผลกระทบใน 2H67 จากต้นทุนใหม่ที่ซื้อเมื่อช่วงต้นปีและคาดจะใช้ในครึ่งปีหลังนี้ (ต้นทุนสาหร่าย 1H67 คิดเป็น 34% ของต้นทุนรวม) ส่งผลต่ออัตราทำกำไรลดลงประมาณ 10% แต่บริษัทมีการปรับลดต้นทุนแพคเกจจิ้ง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงประมาณ 5-6% บริษัทคาดทั้งปี 30% ขึ้นไป จากเรื่อง product mix เน้นสินค้าประเภทอบ แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าประเภทย่างยังเป็นยอดขายอันดับ 1 ในประเทศจีนซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นต่ำสุด
ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 กำไรสุทธิ 563 ล้านบาท (+56%YoY) โดยมีรายได้รวม อยู่ที่ 2,738 ล้านบาท (+9% YoY) โดยสัดส่วนรายได้ในประเทศคิดเป็น 35% ของรายได้รวม และมีอัตราการเติบโต 5% YoY จากการขยายฐานผู้บริโภคในสาหร่ายออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องและทำการตลาดกิจกรรมออนไลน์และออนกราวด์, สำหรับการส่งออกมีสัดส่วนรายได้ 65% ของรายได้รวม มีอัตราเติบโต 12%YoY จากการเติบโตที่โดดเด่นของอินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และบางประเทศในยุโรปที่มีแนวโน้มเติบโตของยอดขาย
การส่งเสริมการตลาดและกิจกรรมผ่านสปอนเซอร์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องของเถ้าแก่น้อยในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Wedding Impossible ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย การเข้าร่วมงาน THAIFEX ช่วยปรับปรุงการกระจายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากการกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นช่วยประหยัดขนาด และการเน้นขายสินค้าสาหร่ายอบที่มีอัตรามาร์จิ้นดีกว่าเพิ่มขึ้น และยังมีต้นทุนสาหร่ายที่ต่ำจากปีที่ผ่านมา