รีเซต

'อธิรัฐ'​ สั่งเจ้าท่าเร่งตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน “ป.อันดามัน 2” ล่มกลางอ่าวไทย หวั่นกระทบพื้นที่ชายฝั่งทะเล

'อธิรัฐ'​ สั่งเจ้าท่าเร่งตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน “ป.อันดามัน 2” ล่มกลางอ่าวไทย หวั่นกระทบพื้นที่ชายฝั่งทะเล
มติชน
23 มกราคม 2565 ( 15:28 )
62

เมื่อวันที่ 23 มกราคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 19.15 น. ได้รับรายงานเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ชื่อเรือ “ป.อันดามัน 2” ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ทราบว่า 1.เรือ ป.อันดามัน 2 มีนายวายุ หมอยาดี เป็นนายเรือ มีลูกเรือจำนวน 5 นาย ซึ่งทั้งหมดปลอดภัย โดยได้รับการช่วยเหลือจากเรือวีนัส 21

นายอธิรัฐ กล่าวอีกว่า 2.เรือจมที่ความลึกประมาณ 50 เมตร 3.มีน้ำมันในเรือ ประมาณ 5 แสนลิตร เป็นดีเซลน้ำมันเขียว 4.สาเหตุการจมเกิดจากมีน้ำเข้าเรือแต่ไม่สามารถสูบออกได้ทัน เนื่องจากมีคลื่นลมแรง 5.เป็นเรือจอดเพื่อการจ่ายน้ำมันเขียวให้เรือประมง และจากการประเมินการไหลของกระแสน้ำในช่วง ​23-25​ มกราคม 2565​ พบว่าไหลขึ้นไปทางด้านทิศเหนือเข้าเลียบชายฝั่ง​ จึงคาดการณ์คราบน้ำมันมีโอกาสจะถูกคลื่นและกระแสน้ำพัดไหลเข้าชายฝั่ง​บริเวณ​ อ.ปะทิว อ.บางสะพานน้อย​ อ.บางสะพาน​ อ.ทับสะแก ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่น้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวัง

 

นายอธิรัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าของเรือ (บริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด) เพื่อเตรียมน้ำยาสลายน้ำมัน วางทุ่นล้อมน้ำมัน บริเวณเรือที่จม พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว ทั้งนี้ ได้สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการตรวจสอบคราบน้ำมันที่พบเป็นน้ำมันชนิดอะไร มีปริมาณเท่าไหร่ ทิศทางการเคลื่อนที่ และมีแผนจะดำเนินการป้องกันและกำจัดอย่างไรหากจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งให้ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1.ออกคำสั่งงดใช้เรือดังกล่าว และให้เจ้าของเรือดำเนินการกู้เรือโดยด่วน 2.ออกประกาศแจ้งเตือนให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ 3.เตรียมพร้อมเรือตรวจการณ์และเรือขจัดคราบน้ำมัน 4.ให้บูรณาการร่วมกับกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนการขจัดคราบน้ำมัน 5.รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง และ 6.เร่งตรวจสอบความปลอดภัยของเรือลำอื่นๆ ที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเล เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง