รีเซต

'ไทย-จีน' เปิดช่องทางด่วนแลกเปลี่ยนบุคลากร ท่ามกลางภาวะโควิด-19 ระบาด

'ไทย-จีน' เปิดช่องทางด่วนแลกเปลี่ยนบุคลากร ท่ามกลางภาวะโควิด-19 ระบาด
Xinhua
15 ตุลาคม 2563 ( 21:26 )
163

 นายกรัฐมนตรีไทย พบปะกับหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน  

 

กรุงเทพฯ, 15 ต.ค. (ซินหัว) -- ไทยและจีนเห็นพ้องการเปิดช่องทางด่วนสำหรับการแลกเปลี่ยนบุคลากร และช่องทางอำนวยความสะดวกสำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างสองประเทศ

วันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกันระหว่างหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ซึ่งเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ได้พบปะกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย

ประยุทธ์กล่าวว่าไทยขอบคุณการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากจีนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และยังซาบซึ้งในคำสัญญาของจีนที่ว่าหากการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประสบความสำเร็จ จีนจะทำให้วัคซีนดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับโลก โดยไทยมุ่งหวังจะกระชับความร่วมมือด้านการวิจัยวัคซีนร่วมกับจีนต่อไปด้วย

ประยุทธ์กล่าวว่าไทยและจีนควรกำหนดแผนการร่วมกันสำหรับความร่วมมือหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และผลักดันความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างไทย-จีนต่อไป

ไทยหวังจะพัฒนาความร่วมมือทางการค้าและเทคโนโลยีขั้นสูงกับจีน พร้อมคาดหวังการลงทุนจากจีนมากขึ้น โดยประยุทธ์แสดงคำมั่นว่าจะจัดสรรสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปิดกว้าง ยุติธรรม และโปร่งใส เพื่อกลุ่มผู้ประกอบการชาวจีน พร้อมเสริมว่าประเทศไทยสนับสนุนการเชื่อมต่อในเชิงลึกของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และเขตเศรษฐกิจอ่าวกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า รวมถึงการเร่งความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างกันด้วย

ขณะเดียวกันประยุทธ์ยืนยันว่าไทยยึดถือนโยบายจีนเดียว และหลักการที่ว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และปรารถนาที่จะเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 3 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย

ด้านหวังอี้ ซึ่งถือเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนแรกที่ได้รับเชิญเดินทางเยือนไทยหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 กล่าวว่าความร่วมมือที่ก่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนและไทยนั้น ส่งผลให้การยับยั้งโรคระบาดประสบความสำเร็จและมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งอันทรงพลังและอนาคตอันสดใสของความร่วมมือทวิภาคี

หวังกล่าวว่าจีนจะส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีต่อไปในยุคหลังการระบาดของโรคโควิด-19 โดยทั้งจีนและไทยจะปรับใช้ความพยายามร่วมกันในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกระชับความร่วมมือกับไทยในการวิจัยวัคซีน ส่งเสริมการเชื่อมต่อและการเกื้อหนุนกันระหว่างระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและเขตเศรษฐกิจอ่าวกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า พร้อมสร้างจุดเด่นใหม่ของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างกัน

จีนจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการชาวจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และขยายความร่วมมือในเศรษฐกิจและธุรกิจรูปแบบใหม่ เช่นเศรษฐกิจดิจิทัล จีนยินดีต้อนรับฝ่ายไทยเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีนที่กำลังจะมาถึง

ทั้งนี้ หวังเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยเมื่อช่วงดึกของวันพุธ (14 ต.ค.) ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้ โดยก่อนหน้าจะมาไทย เขาเดินทางไปยังกัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ และลาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง