เปิดเมืองเงินสะพัด CPALLนำทัพค้าปลีกฟื้น
#CPALL #ทันหุ้น – สมาคมผู้ค้าปลีกไทยชี้ธุรกิจค้าปลีกครึ่งหลังสดใสรับ 3 ปัจจัยหนุนทั้งเปิดประเทศ เปิดภาคการศึกษา และพนักงานกลับเข้าสำนักงาน มั่นใจผู้บริโภคฝ่าภาวะเงินเฟ้อได้ ด้านนักวิเคราะห์ชี้เป้า CPALLเด่นสุดยอดขายต่อสาขาฟื้นแกร่ง รับรู้รายได้จากโลตัส คาดกำไรทั้งปีโต 24.8% จ่อโชว์กำไรโค้งแรกบวก 36.2% ยอดขายต่อสาขาฟื้นตัว 10% เป้า 76 บาท
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งทยอยผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว, การทยอยผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ, การประกาศเปิดภาคการศึกษาเต็มรูปแบบ ประกอบกับภาคเอกชนที่ยกเลิกนโยบาย “Work From Home” จะเป็นแรงส่งที่สำคัญให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าไตรมาส 2 ไทยจะเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อก็ตาม
โดยเฉพาะการประกาศยกเลิกระบบ “Test and Go"และสำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccinated Traveler) ก็จะยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิดเมื่อเดินทางมาถึงประเทศ ที่มีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยววางแผนการเดินทางมาไทย ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เป็นต้นไป
รวมถึงความพยายามผลักดันให้โรคติดเชื้อทางเดินหายใจโควิด-19 กลายเป็น “โรคประจำถิ่น” หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมีแนวโน้มทรงตัว – ทยอยปรับลดลงหลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จะสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการต่างชาติ เริ่มส่งพนักงานกลับเข้ามาประจำสำนักงานในไทย ซึ่งกระจายในหลายจังหวัดทั่วประเทศ จึงเป็น “กำลังซื้อใหม่” ที่แข็งแกร่ง ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการค้าปลีกอย่างมีนัยสำคัญ
“ผู้ประกอบการค้าปลีกมีหลายระดับตั้งแต่ ดิสเคานต์สโตร์), ร้านสะดวกซื้อ อาทิ 7-11, มินิบิ๊กซี, โลตัสเอ็กเพรส ฯลฯ, ร้านค้าปลีกของกลุ่ม SME, ร้านประเภทโชวห่วย ฯลฯ ซึ่งก็จะได้รับอานิสงส์แตกต่างกัน อย่างนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็จะเลือกเข้า 7-11 เป็นอันดับแรก ระดับหัวหน้างานที่ถูกส่งเข้ามาประจำสาขา ก็จะต้องซื้อของเข้าบ้าน กลุ่มนี้ก็จะเลือกเข้าดิสเคานต์สโตร์ก่อน เมื่อโรงงาน โรงแรม สปา บริษัท เริ่มเปิด คนก็มีงานทำกำลังซื้อก็จะกลับมา ส่วนการที่สินค้าแพงขึ้น ทุกคนก็ต้องปรับตัวซึ่งมีงาน มีเงินก็ย่อมดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมาภาพปีนี้ค้าปลีกดีขึ้น และครึ่งหลังของปีนี้ก็จะดีกว่าครึ่งแรกของปีอย่างแน่นอน”
@ CPALL เด่นกลุ่มค้าปลีก
นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกทั้งปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภค – บริโภค และกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้าน โดยจะเห็นตั้งแต่งวดไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง กระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานในระดับที่แตกต่างกัน เบื้องต้นประเมินว่ากลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภค – บริโภคมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ดีกว่ากลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้าน หนุนจากการเปิดประเทศ การที่พนักงานเริ่มกลับเข้าทำงานในสำนักงาน การเปิดภาคการศึกษา ทำให้คนเดินทางมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขายต่อสาขา (SSSG) ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
เลือก CPALL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม จากกลยุทธ์การเพิ่มสินค้าในร้านให้หลากหลาย โดยเฉพาะอาหารพร้อมทาน และเครื่องดื่ม, การเพิ่มบริการ อาทิ รับส่งพัสดุ, การเป็น “แบงกิ้ง เอเยนต์” (Banking Agent), การขยายเข้าสู่สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, และการรับรู้รายได้จาก “โลตัส” เต็มปี ขณะที่ความจำเป็นในการจัดโปรโมชั่นลดลงหนุนอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัว จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 76 บาท
@ โค้งแรกกำไรโต 36.2%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่า CPALLจะรายงานกำไรปกติงวดไตรมาส 1/2565 ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน (YoY),และเพิ่มขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/2564 (QoQ) หนุนจากยอดขายต่อสาขา (SSSG) ที่เพิ่มขึ้น 10% YoY, การเปิดสาขาใหม่, และการรับรู้กำไรจาก Lotus’s สูงขึ้น เบื้องต้นคาดการณ์กำไรทั้งปี 2565 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.1%YoY และเพิ่มขึ้น 24.8%YoY ปี 2566 เป็น 2.1 หมื่นล้านบาท แนะนำ “ซื้อ”ราคาเหมาะสม 75 บาท ราคาปัจจุบันมีUpside ประมาณ 14