“วิกฤตอสังหาฯ จีน”นักลงทุนผวาเสี่ยงผิดนัดหนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนกำลังจับตาความเสี่ยงที่จะรุนแรงขึ้นจากวิกฤตของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รัฐหนุนอย่าง China Vanke Co. ซึ่งกำลังโน้มน้าวนักลงทุนว่าบริษัทจะสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าได้หรือไม่ ท่ามกลางสัญญาณการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจน

China Vanke Co. ซึ่งเคยเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ที่สุดของจีน และถูกมองเป็นตัวชี้วัดสถานการณ์ของอุตสาหกรรมในเวลานี้ ร่วงหนักในตลาดตราสารหนี้ตลอดสัปดาห์ โดยพันธบัตรสกุลเงินหยวนที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 มูลค่า 566 ล้านหยวน ร่วงลงกว่า 19 หยวน เหลือเพียง 75 หยวนในวันพุธ ส่งผลให้ตลาดต้องหยุดซื้อขายช่วงสั้น ๆ

พันธบัตรดอลลาร์สหรัฐของบริษัทที่ครบกำหนดปี 2567 ร่วงลงต่อ หลังจากร่วงแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ 12 เซนต์ในวันอังคาร ล่าสุดซื้อขายที่ระดับ distressed ราว 40 เซนต์ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม

ธนาคารต่างประเทศประเมินภาพรวมอสังหาฯ จีนในเชิงลบ โดยยอดขายกลับมาทรุดตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 โดย UBS คาดว่าราคาบ้านจะยังร่วงต่ออีกอย่างน้อย 2 ปี ส่วน Fitch Ratings ระบุว่ายอดขายบ้านใหม่อาจลดลง 15–20% ก่อนที่ตลาดจะเริ่มทรงตัว

ทั้งนี้ China Vanke Co. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซินเจิ้น ถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดนโยบายของภาครัฐมายาวนาน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือ Shenzhen Metro Group ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ได้ปล่อยกู้แบบผู้ถือหุ้นให้แวนเคแล้วประมาณ 30,000 ล้านหยวน ซึ่งมีบทบาทสำคัญช่วยให้บริษัทสามารถชำระหนี้และหลีกเลี่ยงการผิดนัดในปีนี้

นอกจากนี้ ภายในกลางปี 2569 มีพันธบัตรสกุลเงินหยวนรวมกว่า 13,400 ล้านหยวน ที่ครบกำหนดไถ่ถอนหรือมีสิทธิให้ผู้ถือเรียกคืน ซึ่งสูงกว่าวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้ใช้จาก Shenzhen Metro มาก ตามข้อตกลง ปัจจุบัน China Vanke Co. เหลือวงเงินกู้ที่สามารถดึงมาใช้ได้ไม่มากนักจนกว่าจะถึงประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งกำหนดไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน

ขณะเดียวกันChina Vanke Co. รายงานผลประกอบการขาดทุนเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่ยอดขายรายปีอาจร่วงมากกว่า 40% เหลือประมาณ 138,000 ล้านหยวน ตามการประเมินของ Bloomberg Intelligence

บริษัทยังต้องเผชิญทดสอบสำคัญในเดือนธันวาคมนี้ เมื่อพันธบัตรในประเทศ 2 ฉบับมูลค่า 2,000 ล้านหยวน และ 3,700 ล้านหยวนจะครบกำหนดวันที่ 15 และ 28 ธ.ค. หากบริษัทต้องการยื่นขอขยายเวลาชำระหนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือพันธบัตรอย่างน้อย 90% สำหรับแต่ละฉบับ ซึ่งถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ท้าทายอย่างยิ่ง