รีเซต

'หมอทวีศิลป์' ปลื้มหนักมาก ลงพื้นที่ตรวจราชการเขต 10 พร้อมรับมือโควิด ขอบคุณที่ช่วยกันทำสังคมให้น่าอยู่

'หมอทวีศิลป์' ปลื้มหนักมาก ลงพื้นที่ตรวจราชการเขต 10 พร้อมรับมือโควิด ขอบคุณที่ช่วยกันทำสังคมให้น่าอยู่
มติชน
12 มกราคม 2564 ( 13:02 )
50
'หมอทวีศิลป์' ปลื้มหนักมาก ลงพื้นที่ตรวจราชการเขต 10 พร้อมรับมือโควิด ขอบคุณที่ช่วยกันทำสังคมให้น่าอยู่

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่โรงพยาบาล (รพ.) สนามจังหวัดอุบลราชธานี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และในฐานะผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 10 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมรับมือสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขตสุขภาพที่ 10 มีทั้งหมด 5 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร มุกดาหาร และอำนาญเจริญ

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธาน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นเลขานุการ พร้อมด้วยคณะกรรมการจากหลายฝ่าย มีการรายงานผู้ป่วยในพื้นที่ 3 ราย รายที่ 1 พบเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2563 มีความเชื่อมโยงกับ จ.สมุทรสาคร รายที่ 2 พบเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม เชื่อมโยงกับ จ.นนทบุรี และล่าสุดรายที่ 3 พบเมื่อวันที่ 9 มกราคม อยู่ในการสอบสวนโรค อายุ 62 ปี มีโรคประจำตัว จึงทำให้มีอาการหนัก ทั้งนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกือบ 100 ราย เสี่ยงต่ำอีกกว่า 70 ราย จึงต้องทำการค้นหาและเฝ้าระวังด้วยมาตรการที่ดี

 

“ที่ผมประทับใจคือใครที่เดินทางเข้ามาอุบลฯ เขาจะให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ผู้ใหญ่บ้านทำทะเบียนไว้และติดตาม โดยบันทึกมาตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้สะสมถึง 26,643 คน เป็นผู้มาจากจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงกว่า 18,838 คน ได้ให้กักตัวที่บ้าน พร้อมกับสุ่มตรวจหาเชื้อ แต่ยังไม่มีการติดเชื้อ เป็นสิ่งที่มีระบบเฝ้าระวังตัวบุคคล ต้องขอบคุณ อสม.ที่ทำอย่างแข็งขัน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. มีข้อสั่งการให้ทุกเขตสุขภาพจัดเตรียม รพ.สนาม เพื่อรองรับการระบาดโควิด-19 โดยในเขตสุขภาพที่ 10 ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ตั้งเป็น รพ.สนาม รองรับผู้ติดเชื้อราว 100-1,000 ราย มีความพร้อมมากพอสมควร แต่อาจติดขัดเรื่องของห้องน้ำที่ต้องปรับมาเป็นห้องอาบน้ำ แต่ไม่ใช่ปัญหาอะไร สิ่งที่สำคัญคือภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ นายสมชาติ พงคพนาไกร ตัวแทนจากกรรมการหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ามาหารือให้การช่วยเหลือ อย่างที่เคยบอกไว้ว่า ถ้าภาครัฐเริ่มต้น มีมาตรการออกมา ภาคเอกชนเข้ามาร่วมเติมเต็มกัน และภาคประชาชนช่วยกันด้วยก็เป็นความพร้อม

 

“ข้อเรียนรู้ที่ดี เนื่องจากสถานที่กว้าง สามารถจัดแบ่งเป็นล็อกรองรับผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อออกมาอยู่อีกที่หนึ่ง เมื่อเลย 5 วันไม่ติดเชื้อก็ย้ายไปอีกทีหนึ่ง และผลัดให้ผู้อื่นที่สงสัยว่าติดเชื้อเข้ามาอยู่แทน โดยพื้นที่แบ่งเป็นล็อกๆ คือ 5 วันแรก 5-10 วัน และ 10-14 วัน ฉะนั้นยิ่งห่างไปโอกาสติดเชื้อน้อยกว่า ก็ไปอยู่ในโซนสะอาดมากขึ้น เป็นไอเดียที่ดี เพราะเราเคยได้ยินว่า เมื่อเข้าไปแล้วลูกบิดประตูของคนเก่า ทำความสะอาดไม่ดี คนมาใหม่ก็ติดด้วย อันนี้เป็นเรื่องน่าเรียนรู้และมาช่วยกัน” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ได้รับข่าวจาก รพ.สนาม ที่อื่นมาก่อนหน้านี้ ประชาชนในพื้นที่ไม่มีความเข้าใจเหมือนอย่างที่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หลายที่ไม่ต้อนรับ แต่วันนี้ตนมาเห็นที่อุบลฯ ยินดีต้อนรับคนที่จะมาพักในกรณีที่เกิดการระบาดมากๆ เป็นการเตรียมพร้อมของคนในจังหวัดและดูแลกันอย่างดี ต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง