เตือนเด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้าสารนิโคตินสูง กระทบสมอง-ระบบประสาทโดยตรง
วันนี้ ( 10 พ.ย. 66 )จากกรณีในโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปของเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ บันทึกวิดีโอของตนเองยืนเต้นพร้อมกับสูบบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย นอกจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความพร้อมการดูแลบุตรหลานของพ่อแม่แล้ว ยังมีการพูดถึงปัญหาสุขภาพที่จะตามมาในภายหลัง
ล่าสุดกรมควบคุมโรคได้เผยข้อมูลบผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อเด็กและเยาวชน เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินในปริมาณสูง สารเสพติดจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและสมอง รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของสมองโดยเฉพาะในส่วนของสมองที่รับผิดชอบด้านความสนใจ การเรียนรู้ และความจำ ทำให้เกิดภาวะนอนไม่หลับ ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิตกกังวล หงุดหงิด และมีความหุนหันพลันแล่น อารมณ์รุนแรงมากขึ้น
ดังนั้นกรมควบคุมโรค ขอเตือนผู้ปกครองและครูอาจารย์ช่วยเฝ้าระวังและดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นกลุ่มที่อาจถูกชักจูงจนหลงเชื่อ นำไปสู่การลองสูบจนทำให้เสพติดบุหรี่ไฟฟ้าได้ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าทำลายสุขภาพ มีสารพิษ เสพติดอันตราย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค โทร. 02590 3850
ในขณะที่เพจดัง Drama addict ได้เผยเคสตัวอย่างที่น่าสนใจของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ ในไอร์แลนด์ โดยเยาวชนรายนี้ เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และ แอบเอาเงินค่าขนมไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบโดยไม่ให้พ่อแม่รับรู้ พอครอบครัวรับรู้ขอให้เลิกแต่เธอไม่ยอมเลิก และ เพิ่มปริมาณการสูบขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอสูบถึง 4000 puff ในระยะเวลาไม่กี่วัน โดยปรกติบุหรี่ไฟฟ้าอันนึงมีประมาณ 600 puff
สุดท้ายเธอมีอาการเหนื่อยหอบ ญาติรีบนำส่งโรงพยาบาลใส่ท่อช่วยหายใจเข้ารักษาตัวในห้อง ICU เมื่อเอ็กซเรย์พบว่า พบว่าสภาพปอดข้างนึงพังยับ เหลือปอดข้างเดียวที่ยังใช้งานได้ หลังจากรักษาอย่างเต็มที่อยู่สี่วันเต็ม สุดท้ายเธออาการดีขึ้น จนรอดชีวิตมาได้ แต่ปอดเสียหายตลอดชีวิต
ทุกวันนี้อยู่ในขั้นตอนการทำกายภาพบำบัด แม่ของเธอบอกกับสื่อว่า สภาพของลูกเธอตอนนี้ที่ อายุ 12 ยังกับคนอายุ 80 คือทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย ต้องกายภาพแบบที่ทำให้กับผู้สูงอายุ และแม่เขาก็ฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองท่านอื่นๆว่า อย่าให้ลูกไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเด็ดขาด
ข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค
ภาพจาก : AFP