ความต้องการน้ำมันของ "จีน" ในปีนี้ เกือบครึ่งของทั้งโลก!
บริษัทวิจัย “วู้ด แมคเคนซีย์” ระบุว่า ในปีนี้จีนจะมีสัดส่วนความต้องการบริโภคน้ำมันร้อยละ 38.5 ของความต้องการบริโภคทั้งโลก ในขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะชะลอตัวจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทีมนักวิเคราะห์ของวู้ด แมคเคนซีย์ ที่นำโดยรองประธาน “มัสซิโม ดี โอโดอาร์โด” ประเมินว่า การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของจีนหลังการระบาดของโควิดจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนอุปสงค์ขนาดใหญ่ที่สุดเพียงอย่างเดียว ที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของความต้องการบริโภคน้ำมันในปีนี้
การที่ผู้คนกลับมาเดินทางได้ตามปกติในจีนเป็นตัวขับเคลื่อนอุปสงค์ขนาดใหญ่ที่สุดเพียงอย่างเดียว โดยคิดเป็น 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากทั้งหมดที่เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรลในปีนี้ หรือหมายความว่า ร้อยละ 38.5 ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่ฟื้นตัวในปีนี้จะมาจากจีน
ระหว่างการเยือนมอสโกเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ยืนยันความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ในอีกหลายปีข้างหน้า รวมถึงความมั่นคงด้านพลังงานด้วย เช่นเดียวกับที่ผู้นำจีนเน้นย้ำถึงความสำคัญของเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน ระหว่างการเดินทางไปเยือนซาอุดี อาระเบีย
อย่างไรก็ตาม “วู้ด แมคเคนซีย์” มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ แม้ว่าธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะเตือนถึงอุปสรรคที่รออยู่
โดย “วู้ด แมคเคนซีย์” ไม่คิดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในปีนี้ แม้ว่าจะเกิดความวุ่นวายในตลาดการเงินโลกเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังการล้มของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) แต่คาดว่าเศรษฐกิจของชาติตะวันตกน่าจะชะลอตัวต่อไปอีกหลายเดือนก่อนจะถึงจุดเปลี่ยนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN