SGC เดินหน้าธุรกิจ Lock Phone พร้อมขายหุ้นกู้ใหม่ดบ. 6.80-7.00%

#ทันหุ้น - SGC เดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจปี 2568 ชูธุรกิจ Lock Phone พร้อมเสนอขายหุ้นกู้มีประกันชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 6.80 - 7.00% ต่อปี คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคมนี้
บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีหลักประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย [6.80 - 7.00]% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน คาดว่าจะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม พ.ศ. 2568 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ผ่าน 8 สถาบันการเงินชั้นนำ โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่
SGC ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “BB+” แนวโน้ม “Stable” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 โดยการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ มีหลักประกันเป็นสิทธิเรียกร้องที่บริษัทมีอยู่กับลูกหนี้สินเชื่อ stage 1 แบบไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2.0 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายได้ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อ
คุณอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ Lock Phone เต็มรูปแบบในปี 2568 โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทได้ปล่อยเงินให้สินเชื่อใหม่จำนวน 3,728 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 47% ของเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งปี และยังได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทคาดว่าในปี 2568 นี้ รายได้จะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2567
ผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2568 แข็งแกร่ง โดยมีกำไร 175.55 ล้านบาท เติบโต 213.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
SGC รายงานผลการดำเนินงานในงวดหกเดือนแรกของปี 2568 โดยมีกำไรสุทธิ 175.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 213.57% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมจำนวน 1,409.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 531.87 ล้านบาท หรือ 60.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือหรือ Lock Phone คิดเป็น 50% ของรายได้ดอกเบี้ยรับรวม การเติบโตดังกล่าวมาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone และการควบคุมต้นทุน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost to income) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2567
ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 6- 8 ตุลาคม 2568 ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 8 แห่ง ดังต่อไปนี้
1.บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด 2.บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด 3.บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 4.บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) 5.บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด 6.บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 7.บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) 8.บริษัท หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
