บล.กสิกรไทย แนะนำ “ถือ” HANA ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท

#ทันหุ้น #HANA บล.กสิกรไทย แนะนำ “ถือ” บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) HANA ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท คาดแนวโน้มฟื้นตัวใน 2H68

• รายงานกำไรปกติไตรมาส 2/2568 ที่ 153 ลบ. ลดลง 69% YoY และ 31% QoQ ผลประกอบการออกมาสูงกว่าที่เราประเมินไว้ 60% กำไรปกติครึ่งแรกของปี 2568 คิดเป็น 43% ของประมาณการทั้งปีของเรา

• ประเด็นสำคัญเป็นเชิงบวกเล็กน้อยจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ HANA ประจำไตรมาส 2/68 เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การได้รับคำสั่งซื้อใหม่สำหรับระบบทำความเย็นแบบโซลิดสเตตสำหรับศูนย์ข้อมูล AI

• ธุรกิจอื่น ๆ ยังคงเผชิญแรงกดดัน แม้ว่าธุรกิจ PCBA จะมีศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งจาก AI แต่ธุรกิจอื่น ๆ ยังคงเผชิญแรงกดดัน ในด้านธุรกิจการประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ (OSAT) กำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในครึ่งหลังปี 2568 โดยอุปสงค์จากลูกค้ายังสะท้อนสัญญาณผสมผสาน ในจีน โรงงาน Jiaxing มีรายได้ลดลงอย่างมากที่ 23% YoY ในครึ่งแรกปี 2568 จากความกังวลด้านภาษี 

โดยมีการย้ายคำสั่งซื้อบางส่วนไปกัมพูชา และผู้บริหารมีแผนย้ายเพิ่มเติม พร้อมการลดจำนวนพนักงานลง 12% เพื่อลดต้นทุน นอกเหนือจากโมดูล EV ที่ยังทำผลงานได้ดีแล้ว ความเสี่ยงยังคงสูงสำหรับการดำเนินงานในจีน โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ ได้ขยายเวลาการจัดเก็บภาษีตอบโต้จีนออกไปอีก 90 วัน จนถึงวันที่ 11 พ.ย.

• PMS ยังคงเป็นปัจจัยฉุด ผู้บริหารระบุว่า PMS มีการตัดด้อยค่าจำนวน 174 ลบ. จากวัตถุดิบที่เสื่อมสภาพและมีต้นทุนสูง แม้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งของการตัดด้อยค่านี้อาจกลับรายการได้เมื่อสินค้าถูกจำหน่ายออกไป แต่แนวโน้มยังคงซบเซาจากอุปสงค์พลังงานทดแทนและ EV ที่ชะลอตัว โดยมีอุปทานส่วนเกินจำนวนมากจากจีน เราเชื่อว่าการฟื้นตัวไม่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ HANA กำลังเดินหน้าในการจ้างผลิตอุปกรณ์ Si จากจีน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2569 เพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน

• มุมมองของเรา เรามองว่ากำไรของ HANA ในครึ่งหลังปี 2568 จะดีขึ้นจากครึ่งแรกปี 2568 โดยส่วนใหญ่มาจาก 1) อุปสงค์ที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวในธุรกิจ PCBA และ OSAT 2) ผลขาดทุนที่ลดลงจาก PMS จากการกลับรายการของการตั้งสำรองสต๊อกสินค้า และ 3) การประหยัดต้นทุนจากการลดจำนวนพนักงานในโรงงานที่จีน เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568/69/70 ขึ้น 7%/7%/8% เพื่อสะท้อน 1) กำไรไตรมาส 2/2568 ที่ออกมาสูงกว่าคาด 2) ต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงซึ่งช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ดีขึ้น และ 3) สมมติฐานยอดขายธุรกิจ PCBA ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนความเสี่ยงขาขึ้นจากธุรกิจระบบทำความเย็น 

• แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น 7-8% ในปี 2568-70 และการประเมินมูลค่าใหม่