ลุ่มเจ้าพระยาทำนาปรังแล้ว 4.9 ล้านไร่

นายธเนศร์ สมบูรณ์  ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา เผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและการเพาะปลูกทั้วประเทศปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 59,801 ล้าน ลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 78 ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 35,860 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก  มีปริมาณน้ำรวม 19,923 ล้าน ลูกบาศก์เมตรหรือ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ รวมกัน  ซึ่งจนถึงขณะนี้ทั้งประเทศมีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 9,456 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ32 จากแผนฯ ด้านผลการเพาะปลูกพืชทั้งประเทศ ล่าสุด พบว่า มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วรวม 6.21 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการเพาะปลูกข้าวนาปรังแล้ว 4.90 ล้านไร่ ซึ่งมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเรา 813,993 ไร่ เนื่องจากมีปริมาณน้ำต้นทุนที่มีมาก ซึ่งยังอยู่ในกรอบของแผนการเพาะปลูก ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงการณ์บริหารจัดการน้ำฤดูแล้งเพื่อการเพาะปลูก ทำนาปรัง ปี 2567/2568 โดย กรมชลประทาน ได้แจ้งว่า มีน้ำสำหรับทำนาปรังเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านไร่ ทำให้สามารถทำนาหน้าแล้งได้ 10.02 ล้านไร่ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ในช่วงบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ กลาง อีสาน และภาคตะวันออก ได้กำชับไปยังโครงการชลประทาน นำข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) มาบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ / โดยเฉพาะเขตทุ่งบางระกำ และพื้นที่ทุ่งลุ่มต่ำน้ำเจ้าพระยา ที่มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังเป็นจำนวนมาก ตลอดจนสำรองน้ำไว้ใช้ในต้นฤดูฝนหน้า พร้อมเฝ้าระวังรักษาคุณภาพน้ำร่วมกับการประปานครหลวง (กปน.) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ