ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ผันผวน หลังความต้องการฟื้นตัว
วันนี้ (2 มิ.ย.63) บมจ.ไทยออยล์ เปิดเผยแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ (1 – 5มิ.ย. 63)ว่า ราคาน้ำมันดิบผันผวนแม้ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายการปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลกและกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีแนวโน้มลดลง ตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย. 63
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนปะทุอีกครั้งจากสถานการณ์ความไม่สงบครั้งใหม่ในฮ่องกง โดยสหรัฐฯ ขู่ตัดสิทธิพิเศษทางการค้าของฮ่องกง หลังจีนกำลังพิจารณาใช้กฎหมายควมคุบฮ่องกง ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจโดยภาพรวม
สำหรับ ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ได้แก่
- ตลาดน้ำมันรับปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง โดยล่าสุดรัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้มีการเปิดร้านค้าและศูนย์การค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป ตามมาตรการผ่อนคลายปิดเมืองในเฟสที่สอง นอกจากนี้ รัฐบาลสเปนอนุญาตให้หาดบางแห่งเปิดรับผู้คนอีกครั้งและมีการรวมกลุ่มของคนมากกว่า 10 คนได้แล้วในกรุงแมดริดและนครบาร์เซโลนา
- กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรเตรียมพิจารณาขยายระยะเวลาข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตลงราว 9.7ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. - มิ.ย. 63ออกไปโดยกลุ่มผู้ผลิตจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 10มิ.ย. 63
- จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 22 พ.ค. ลดลง 21 แท่นสู่ระดับ 318 แท่น ซึ่งต่ำสุดเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
- ความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีนเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลจีนพิจารณาใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ต่อฮ่องกง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการปกครองตนเองของฮ่องกง ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯจะตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจใช้กฎหมายดังกล่าวของจีนในฮ่องกง
- รัฐบาลจีนงดการประกาศเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีในปี 63 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยจีนให้เหตุผลว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการขยายตัวจีดีพีของจีนในปี 63 จะอยู่ที่ราว 2%-3% ลดลงจาก 6.1% ในปี 62
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 พ.ค. 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 530 ล้านบาร์เรล
- อย่างไรก็ตาม รัสเซียมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนมาตรการลดกำลังผลิตตามแผนเดิมในเดือน ก.ค. 63 ให้กลับไปอยู่ในกรอบข้อตกลงที่โอเปกและประเทศพันธมิตรเห็นพ้องกันในช่วงต้นปี หลังความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ตลาดขาดความมั่นใจจนกว่าจะมีข้อตกลงที่แน่ชัด
- เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการจีน เดือน พ.ค. 63 รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน พ.ค. 63 รายงานอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือน พ.ค. 63การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยยูโรโซน
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา(25– 29พ.ค. 63) พบว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น2.24เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 35.49เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สำหรับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 37.84เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 35.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง รวมถึงการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ซึ่งตกลงกันที่จะลดการผลิตน้ำมันดิบลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค.และมิ.ย. 63 เพื่อจัดการกับปริมาณน้ำมันส่วนเกินที่เกิดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ ตลาดกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เกิดขึ้นอีกครั้งจากความไม่สงบครั้งใหม่ในฮ่องกง
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online