ซีอีโอ “ศุภชัย เจียรวนนท์”มอบรางวัลเครือเจริญโภคภัณฑ์เชิดชูเกียรติเครือข่ายการกำกับดูแลกิจการที่ดี CG Network Recognition Awards 2023
ซีพีผนึกกำลังทุกกลุ่มธุรกิจสู่เป้าหมายองค์กรเป็นเลิศด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซีอีโอ “ศุภชัย เจียรวนนท์” มอบรางวัลเครือเจริญโภคภัณฑ์เชิดชูเกียรติเครือข่ายการกำกับดูแลกิจการที่ดี 2566 หรือ CG Network Recognition Awards 2023 แก่บุคคล และองค์กรทั่วโลกในเครือซีพี พร้อมตอกย้ำให้ทุกกลุ่มธุรกิจร่วมขับเคลื่อนธรรมาภิบาลนำเครือฯสู่ศตวรรษที่ 2 สร้างประโยชน์แก่ประเทศและองค์กร
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดงาน CG Network Recognition Awards 2023 หรือ เครือเจริญโภคภัณฑ์เชิดชูเกียรติเครือข่ายการกำกับดูแลกิจการที่ดี 2566 มอบรางวัลแก่บุคคล องค์กร จากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ผนึกกำลังเป็นเครือข่ายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้มีกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ทั้งบริษัทจดทะเบียนและไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติรวม 66 กลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ เป็นผู้มอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ พร้อมกล่าวแสดงความยินดีและประกาศให้ทุกกลุ่มธุรกิจร่วมผนึกกำลังขับเคลื่อนธรรมาภิบาลเป็นหนึ่งเดียวนำองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนสร้างประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ ชี้ผู้นำคือผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างองค์กรเป็นเลิศด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี พิธีมอบรางวัล CG Network Recognition Awards 2023 จัดขึ้นที่ห้องประชุมออดิทอเรียม ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ และถ่ายทอดออนไลน์ไปยังสำนักงานต่าง ๆ ทั่วโลก
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหารและตัวแทนจากทุกกลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ พร้อมทั้งระบุว่า ธรรมาภิบาลที่ดีคือรากฐานสำคัญในการนำองค์กรสู่ความเป็นเลิศ ทั้งนี้เครือซีพีดำเนินธุรกิจเติบโตมาได้ 100 กว่าปี เพราะยึดหลักคุณธรรมและหลักธรรมาภิบาลที่ดีมาโดยตลอด ทุกกลุ่มธุรกิจจะต้องสร้างศักยภาพขององค์กรในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศที่ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี หรือ Good Governance ซึ่งจุดเริ่มต้นต้องมาจาก "ความรักและความมั่นคง" คำนึงถึงคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ในขณะเดียวกันผู้บริหารและพนักงานทุกกลุ่มธุรกิจ จะต้องมุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศให้กับองค์กร ด้วยการปรับตัวและพัฒนากระบวนการ มีความโปร่งใส มีการนำระบบเทคโนโลยี พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมด้านธรรมาภิบาลที่ดีให้เกิดทั่วทั้งองค์กร ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมุ่งสู่ความเป็นเลิศ เพื่อสร้างประโยชน์ใหักับสังคมและประเทศชาติเป็นสำคัญ โดย "ผู้นำ" มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาคนเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ธรรมาภิบาลที่ดี ผู้นำจะต้องเป็นโค้ช เป็นตัวอย่างที่ดี ให้โอกาสและนำศักยภาพของพนักงานที่เปรียบเสมือนการคัดเพชรเม็ดงาม มาสร้างประโยชน์ สร้างคุณค่าให้กับองค์กรและประเทศ สิ่งเหล่านี้ทำให้เครือซีพีได้รับการยอมรับจากสถาบันชั้นนำระดับโลกด้านจริยธรรม Ethisphere ติดต่อมาหลายปี
"การสร้างธรรมาภิบาลสู่ความเป็นเลิศ เราไม่ได้ทำตามทุกอย่างเหมือนเดิม เราต้องเห็นคู่ค้า ลูกค้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับธุรกิจ ทุกกลุ่มธุรกิจต้องมีความเชื่อมโยงและมีเป้าหมายเดียวกัน เพราะความเป็นเลิศขององค์กรไม่ได้หยุดแค่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่อยู่ที่ความเป็นเลิศในการทำงานร่วมกันด้วยความสามัคคี และสร้างสรรค์ ดังนั้นการสร้างธรรมาภิบาลที่ดีทุกคนในองค์กรจะต้องสร้างความมั่นใจ ความเชื่อที่จะร่วมมือขับเคลื่อนไปด้วยกันทั้งองค์กร สร้างมูลค่าองค์กรสู่เป็นเลิศไปเรื่อย ๆ ให้เราเป็นองค์กรที่ยืนหยัดไปได้อย่างน้อยอีก 100 ข้างหน้า"
ด้านนางรงค์รุจา สายเชื้อ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านธรรมาภิบาล เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่าเครือข่ายการกำกับดูแลกิจการที่ดี CG Network เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยผู้บริหารระดับสูงของเครือฯ ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาล (CG Committee) ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกรอบการกำกับดูแล นโยบายด้านธรรมาภิบาล และจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจระดับเครือฯ ทั้งนี้เครือซีพีเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินธุรกิจหลากหลายรวมถึง 14 กลุ่มใน 21 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ มีพนักงาน 4.5 แสนคนทั่วโลก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครือข่าย CG Network หรือ เครือข่ายการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อผนึกกำลังขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในองค์กรเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้การมอบรางวัล CG Network Recognition Awards เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นและตั้งใจของซีอีโอเครือซีพี ศุภชัย เจียรวนนท์ ที่ต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานที่ได้ทุ่มเทมีส่วนร่วมขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลจนสำเร็จได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2566 มีกลุ่มธุรกิจที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 66 กลุ่มธุรกิจ แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย 21 กลุ่มธุรกิจ กลุ่มธุรกิจในต่างประเทศและเขตประเทศจีนอีก 45 กลุ่ม อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด บริษัท สยามแลนด์ ฟลายอิ้ง จำกัด ธุรกิจพืชครบวงจร ธุรกิจเกษตรภัณฑ์ เป็นต้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับความทุ่มเทในการร่วมขับเคลื่อนงานด้านธรรมาภิบาลจนสำเร็จตามแผนงานปี 2566
ขณะที่นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการภายนอก คณะกรรมการขับเคลื่อนการกำกับดูแลกิจการความเสี่ยงและการตรวจสอบ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และอดีตนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า การกำกับดูแลกิจการที่ดีในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องอยู่บนพื้นฐานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำความรู้และคุณธรรมมาปรับใช้สร้างการกำกับดูแลที่ดี ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี รวมไปถึงการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก และมีการสร้างสังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมให้ดี ปัจจุบันธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการกำกับดูแล เพราะเป็นการบริหารความเสี่ยงระดับกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรจะมีการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้นการสร้างความยั่งยืนจะต้องคำนึงถึงหลัก ESG ควบคู่กัน และต้องสอดคล้องกับนโยบายขององค์กร สิ่งสำคัญคือจะต้องมีการตรวจสอบว่าปฏิบัติตามกรอบที่กำหนด และมีการสื่อสารเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสให้ผู้ถือหุ้น คู่ค้า เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือขององค์กร ทั้งนี้นโยบายของการกำกับดูแลกิจการที่ดีจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามพลวัตรของสังคม ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับ CG Network Recognition Awards เป็นการมอบรางวัลให้กับกลุ่มธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีการดำเนินงานตามกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดีของเครือฯ โดยมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น อาทิ ด้านกระบวนการกำกับดูแลมีการจัดทำแผนการกำกับดูแล พร้อมรายงานผลรายไตรมาสคิดเป็น 100% ของกลุ่มธุรกิจ รวมไปถึงพนักงานทุกกลุ่มธุรกิจมีการรับทราบ เรียนรู้ และทดสอบจรรยาบรรณธุรกิจประจำปี พร้อมทั้งตอบแบบสำรวจการรับรู้ด้านธรรมาภิบาล และการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมด้านจริยธรรมคิดเป็น 100% เป็นต้น โดยรางวัลดังกล่าวพิจารณาจาก 5 หลักเกณฑ์ คือ 1. การจัดทำแผนงานและรายงานความคืบหน้า 2.การนำนโยบายไปปฏิบัติ 3.การสื่อสารนโยบายไปยังพนักงานในกลุ่มธุรกิจ 4.การเข้าร่วมการอบรมของพนักงานตามที่เครือฯ กำหนด และ 5. การส่งต่อความรู้ด้านธรรมาภิบาลแก่พนักงานทุกคนในกลุ่มธุรกิจ