รีเซต

ข่าวแตงโม "ทนายเดชา" แจง 6 ข้อ "ถอนคดีแตงโม" ซัดหมอพรทิพย์ แทรกแซง ทำประชาชนวิจารณ์ตำรวจ "แม่แตงโม" ไม่ขอคุยด้วย

ข่าวแตงโม "ทนายเดชา" แจง 6 ข้อ "ถอนคดีแตงโม" ซัดหมอพรทิพย์ แทรกแซง ทำประชาชนวิจารณ์ตำรวจ "แม่แตงโม" ไม่ขอคุยด้วย
Ingonn
29 มีนาคม 2565 ( 08:52 )
390
ข่าวแตงโม "ทนายเดชา" แจง 6 ข้อ "ถอนคดีแตงโม" ซัดหมอพรทิพย์ แทรกแซง ทำประชาชนวิจารณ์ตำรวจ "แม่แตงโม" ไม่ขอคุยด้วย

"แม่แตงโม" พร้อม "ทนายเดชา" ยื่นถอนคดีแตงโมออกจาก กมธ.สิทธิฯ วุฒิสภา ไม่พอใจ "หมอพรทิพย์" ก้าวก่าย ทำประชาชนวิจารณ์ตำรวจ "แม่แตงโม" ลั่นไม่ขอพูดคุยกับหมอพรทิพย์อีกแล้ว เชื่อมั่นตำรวจ ชี้คดีใกล้จบแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นมาทำให้สะดุด ด้าน "ทนายเดชา" แจง 6 ข้อซัดหมอพรทิพย์ แทรกแซงการทำหน้าที่ของตำรวจ และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 

 

นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับหนังสือจากนางภนิดา พัชรวีระพงษ์ แม่แตงโม และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เพื่อขอให้ถอดถอนเรื่องร้องเรียนคดีแตงโมออกจากการพิจารณาของ กมธ. และขอให้ตรวจสอบการทำงานของ กมธ.ว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่


นางภนิดา แม่แตงโม กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพื่อขอถอนเอกสารที่เคยมอบหมายให้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายแม่ ยื่นขอความเป็นธรรมต่อ กมธ. เพราะเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า มีรายละเอียดบางอย่างที่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ จึงได้ปรึกษากับทนายเดชา และมายื่นคำร้องในวันนี้ เพื่อให้ตำรวจทำงาน และเกิดความเรียบร้อย 

 

และจากกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของ กมธ.บางคน พบว่า มีการแทรกแซงการทำหน้าที่ของตำรวจ และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 จึงขอถอนคำร้องที่เคยยื่นต่อ กมธ.ให้ดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของแตงโมออกจากการพิจารณา เนื่องจากพบว่ามี กมธ.บางคนให้สัมภาษณ์และแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม

 

จากนั้น ทนายเดชา ได้ระบุเหตุผลของแม่แตงโม ที่มายื่นเรื่องวันนี้ เนื่องจากมีกรรมาธิการบางคน ซึ่งต่อมาก็ระบุว่าเป็น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ แทรกแซงการทำหน้าที่ของตำรวจ รวม 6 ข้อ คือ

  1. กมธ.บางคนมีการเข้ามาก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้อำนาจสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในเรื่องต่างๆ อาทิ สั่งให้สอบผู้เชี่ยวชาญ สั่งให้นำเข้าเครื่องจับเท็จ ตำหนิเรื่องการจัดเก็บของกลาง

  2. นำผลการผ่าพิสูจน์ศพออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนโดยมิชอบ เช่น เปิดเผยปริมาณแอลกอฮอล์ หยดเลือดที่ผ้าอนามัย ร่องรอยบาดแผลที่ศพ เป็นต้น ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

  3. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะดิสเครดิตการทำงานของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและขาดความเชื่อถือในการทำงานของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ

  4. มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็น “มีทนายดังต่อสายเตือนว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่ปลื้มการเข้ามายุ่งคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม” ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์โดยไม่มีพยานหลักฐาน

  5. อ้างหลักการเปิดเผยข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ของต่างประเทศ ซึ่งยังไม่มีการรับรองตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับใดในประเทศไทย

  6. กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเตะถ่วงไม่ยอมส่งศพเพื่อผ่าพิสูจน์รองที่ 2 ณ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย

 

ดังนั้นจึงขอยกเลิกหนังสือมอบอำนาจหรือหนังสือที่ยินยอมให้คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และนายศตวรรษ เศรษฐกร เข้าร่วมในการสังเกตการณ์การชันสูตรพลิกศพของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และไม่อนุญาตให้บุคคลดังกล่าวนำผลการชันสูตรมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เนื่องจากจะทำให้รูปคดีของตำรวจเสียหาย

 

ด้านนายสมชาย แสวงการ ประธาน กมธ. กล่าวว่า จะดำเนินการรับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ในวันจันทร์ที่ 4 เม.ย.ต่อไป พร้อมยืนยันการทำหน้าที่ของ กมธ.มีความตรงไปตรงมา ไม่แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอย่างแน่นอน

 

ทนายเดชา บอกว่าการมายื่นถอนครั้งนี้ เกิดขึ้นจากเพียงแค่กรรมาธิการบางคน ที่ไม่ใช่นายสมชาย ออกมาให้สัมภาษณ์ก้าวก่ายการทำงานของตำรวจ มองเหมือนตำรวจไม่มีศักดิ์ศรี เช่นให้สัมภาษณ์มีข้อสั่งการให้ไปสอบผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่ตำรวจทำไปแล้ว โดยกรรมาธิการท่านดังกล่าวมีชื่อเสียงและมีหน้าตาทางสังคม จนทำให้คนในสังคมโจมตีตำรวจ


โดยฟางเส้นสุดท้ายที่เหมือน สว. ย่ำยีการทำงานของตำรวจ คือ การไปที่บริเวณด้านหน้าของกลางโดยมีการตำหนิเรื่องของการเก็บพยานหลักฐาน ซึ่งตำรวจได้ชี้แจงแล้วว่ามีการตรวจละเอียดทั้งหมดแล้วจะไม่มีการตรวจซ้ำ แต่ในวันที่ลงพื้นที่กรรมาธิการบางคนยังตำหนิ ทำให้ตำรวจเสียหน้า จนทำให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ออกมาแถลงข่าวว่าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซง
นอกจากนั้นนำผลชันสูตรศพออกมาพูดในที่สาธารณะ ทั้งที่แม่ของแตงโมมอบอำนาจให้ไปสังเกตการณ์ไม่ใช่เอาผลชันสูตรมาแถลงข่าว


มีการเปิดเผยทั้งปริมาณแอลกอฮอล์ที่กระทบต่อคดี หยดเลือดที่ผ้าอนามัย และร่องรอยบาดแผล ทำให้ประชาชนเข้าใจการทำงานตำรวจผิดจนตำรวจถูกด่า


นอกจากนั้นยังมีการให้สัมภาษณ์ในเชิงตำหนิแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ จนทำให้ประชาชนสับสน แพทย์ขาดความน่าเชื่อถือ 
นอกจากนั้นยังมีประเด็นที่ไปให้สัมภาษณ์เรื่องทนายความชื่อดังต่อสายตรงเตือนว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่พอใจ มีการข่มขู่ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ถือเป็นการให้สัมภาษณ์ดิสเครดิตตำรวจ ซึ่งขอยืนยันว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและตัวเองไม่เคยข่มขู่ ขอให้หมอพรทิพย์ระมัดระวังการให้สัมภาษณ์

 

ภายหลังยื่นหนังสือ ผู้สื่อข่าวได้ซักถามกรณีที่เคยขอให้คุณหมอพรทิพย์ มาช่วย แต่สุดท้ายมาขอถอนเรื่องออก โดย นางภนิดา ยอมรับว่า ตนรู้เท่าไม่ถึงการ หลงเชื่อคำแนะนำของทนายกฤษณะ ที่เสนอว่าจะมาขอความช่วยเหลือจากหมอพรทิพย์ โดนจะมายื่นหนังสือผ่าน กมธ.ที่รัฐสภา และได้พิมพ์หนังสือมอบอำนาจให้ตนเซ็น โดยยอมรับว่าตนเองพลาดเองที่ไม่ได้อ่านรายละเอียด จากนั้นทนายกฤษณะก็ไปจัดแจงและให้หลานสาวมาเป็นตัวแทนของครอบครัว ซี่งเรื่องนี้ตนไม่รู้เรื่อง จนล่วงเลยถึงการยื่นเรื่องขอชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 แม่ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่อยากให้ผ่าศพแล้ว แต่ทนายกฤษณะและแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ก็ยืนยันและแสดงความเห็นและดำเนินการจนเกิดการผ่าศพครั้งที่ 2


"ที่ผ่านมาแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมากจนเกินไป ทั้งเรื่องการนำผลชันสูตรพลิกศพลูกสาวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งที่ผลชันสูตรบางส่วนคือส่วนสำคัญของคดี” 


แม่แตงโม บอกอีกว่าจากนี้จะไม่ขอเคลียร์หรือพูดคุยกับหมอพรทิพย์อีกแล้ว เพราะไม่มีความจำเป็นต้องคุยกัน


ทั้งนี้ บางช่วงบางตอนของการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวพยายามถามนางภนิดา ถึงเจตนาของการแถลงข่าวว่าต้องการจะผลักหมอพรทิพย์ ออก และปกป้องตำรวจหรือไม่ นางภนิดายืนยันว่าไม่ได้ปกป้อง แต่ตนเองไม่ชอบที่หมอพรทิพย์ออกมาพูดมากเกินไป

 

 

 

ข้อมูล เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว  , วุฒิสภา

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง