รวบ 2 ตัวการ พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง ทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ใครเสียหายที่สุด?

เกิดอะไรขึ้น?
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สส.พรรคประชาชน มีการเปิดโปง ขบวนการโกงยา รพ.ทหารผ่านศึก หลังมีประชาชน เข้ามาแจ้งเบาะแส ที่น่าตกใจคือพบว่า ขบวนการโกงอย่างยิ่งใหญ่นี้ ทำมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี มีผู้ร่วมขบวนการหลายระดับ ร่วม 600 คน กระจายในหลายจังหวัด และไม่ใช่แค่ รพ.เดียว โดยพบว่ามีข้าราชการระดับสูง - กลาง รวมถึง ทหารยศ พันเอก และ คุณหมอชำนาญการ รวมอยู่ด้วย
พฤติการณ์ คือ ไปเหมาคนมีสิทธิ์รักษาจากต่างจังหวัด ขนกันเป็นรถตู้เข้ากทม. มาหาหมอ โดยกินอาหารไขมันสูง เพื่อให้ค่าเลือดผิดปกติ เน้นโกงยาราคาแพง ยารักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่เบิกได้ครั้งละจำนวนมาก เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน
ที่ทำได้ง่ายเพราะจุดบอดของระบบเบิกจ่ายยาของข้าราชการ
เพราะ ฐานข้อมูลโรงพยาบาลรัฐ ไม่เชื่อมโยงข้อมูลกัน ทำให้คนไข้ปลอม เบิกที่นี่แล้ว ไปเบิกที่นั่น ซ้ำซ้อน ได้ยาทีเป็นกระสอบ และนำไปขายในตลาดมืด ร้านยาที่เข้าร่วม มีเงินหมุน หลายสิบล้านบาท
เบาะแสและการแจ้งความเอาผิดของ ผอ.รพ.ทหารผ่านศึกนำมาซึ่งการ
เปิดปฏิบัติการทลายขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ของ ตำรวจสอบสวนกลางในวันนี้ บุกค้น 18 จุด ใน 4 จังหวัด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน รวมตัวการสำคัญระดับหัวหน้า 2 คน
- พ.อ.หญิง ก. ข้าราชการบำนาญ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
จับกุมที่บ้านพักย่านเกียกกาย พบว่าอยู่ในสภาพอิดโรย แจ้งว่าป่วยเป็นวัณโรค แต่ให้ความร่วมมือดี ก่อนคุมตัวไปค้นที่ คอนโด ย่านพระราม 4 จุดที่ พันเอกหญิง ก. ใช้เป็นคลังเก็บยาที่ทุจริตออกมาจากโรงพยาบาลทั้งหมด ก่อนกระจายต่อ โดยเปิดเป็นห้องซักรีด ใต้คอนโดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
พฤติการณ์
วางแผน : ให้แม่ทีม จัดหาผู้มีสิทธิ์เบิก ไปพบแพทย์
เก็บยา : นำยาที่ได้ มาเก็บไว้ที่ห้องซักรีดใต้คอนโดแห่งนี้
ส่งต่อ : ให้กับเครือข่ายใน ต่างจังหวัด ที่เป็นร้านยาและผู้กระจายยา
ส่งกลับ : มาขายให้ยี่ปั๊ว และ ร้านขายยา ย่านพระราม 4 อีกทอด
โดยหลักฐานสำคัญที่ถูกใช้มัดตัว คือ เส้นทางการเงินของ พ.อ.หญิง ก. ในช่วงปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท
ส่วนอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ แพทย์หญิง ผู้ชำนาญการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ผู้ทำหน้าที่สั่งจ่ายยา ให้บรรดาผู้ป่วยปลอม จับกุมได้ที่ บ้านพักย่านลาดพร้าว 71 เบาะแสจากนักข่าวช่องดังเผยข้อมูลที่น่าตกใจ ว่าจำนวนยาที่แพทย์หญิง บ. สั่งจ่ายให้คนไข้ในช่วง 2 ปี เทียบเท่ากับ คุณหมอ 100 คน สั่งจ่ายให้คนไข้ รวมมูลค่ายาจากภาษีประชาชนสูงกว่า 80 ล้านบาท!!!
ก่อนตำรวจจะบุกเข้าค้นร้านยา 11 จุด 1 ในร้านเป้าหมาย ไม่ไกลจาก รพ. น่าจะไหวตัวทัน เพราะตรวจสอบไม่พบตัวยาสั่ง ที่จ่ายเฉพาะในโรงพยาบาลแล้ว แต่ตำรวจพบ แชทไลน์ลับ ที่เจ้าของร้านยา พูดคุยกับ ยี่ปั๊วะจำหน่ายยา 1 ในผู้ต้องหาคดีนี้ แม้ตัวแชทถูกลบ แต่ที่โป๊ะ เพราะ unpin ไม่ทัน เจ้าของร้าน ดันปักหมุด ชื่อตัวยาชนิดหนึ่ง เอาไว้ คิดว่าไม่น่ารอด
สุดท้ายแม้การจับกุมในวันนี้จะได้ “ 2 จิ๊กซอว์ตัวสำคัญ ”
แต่เชื่อว่าในขบวนการนี้ น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกมาก เพราะเชื่อมโยงไปอีกหลาย รพ.รัฐทั่วประเทศ
หากไม่เร่งปราบปรามมันจะสร้างผลกระทบมหาศาล
• ผลาญงบประมาณรักษาข้าราชการ จากภาษีประชาชน
• คนป่วยจริงเบิกยาช้า เข้าไม่ถึงการรักษา
• โรงพยาบาลขาดยา เพราะต้องสำรองให้ “ตัวละครปลอม”
• อนาคตสิทธิ์เบิกจ่ายของข้าราชการอาจถูกทบทวนใหม่ คนป่วยจริง รับกรรมไป
แล้วเราจะทำอะไรได้?
• ปรับระบบเบิกจ่ายใหม่ → เชื่อมข้อมูลทุกโรงพยาบาล
• เพิ่ม Post Audit – ตรวจสอบย้อนหลังแบบเข้มข้นขึ้น
ท้ายที่สุดผู้เขียนเชื่อว่าขบวนการใหญ่แบบนี้ จะทำกันได้ไงเป็น 10 ปี…ถ้าไม่มี “Big Boss” คอยอุ้มหนุน บงการ เคลียร์ทางให้และรับส่วนแบ่ง และตอนนี้ยังไม่โดนแตะเลย สุดท้ายเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกัน ช่วยกันตรวจสอบ พบเบาะแส ต้องร้องเรียน อย่านิ่งนอนใจคิดว่าไม่ใช่เรื่องตัวเอง ไม่งั้นอนาคตหากมีการทบทวนสิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ที่ใช้งบประมาณปีละ 100,000 ล้านบาท อาจเป็นคุณเองแหละที่จะเดือดร้อน จากเหตุการณ์ ข้าราชการโกงข้าราชการด้วยกันเองแบบนี้