รีเซต

น้องเหยื่อ เผยพิรุธ มือปืนยิงดับหนุ่มโคราช เชื่อปมหึงหวง “ชายรักชาย”

น้องเหยื่อ เผยพิรุธ มือปืนยิงดับหนุ่มโคราช เชื่อปมหึงหวง “ชายรักชาย”
ข่าวสด
1 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:30 )
117
น้องเหยื่อ เผยพิรุธ มือปืนยิงดับหนุ่มโคราช เชื่อปมหึงหวง “ชายรักชาย”

น้องชาย เผยพิรุธ มือปืน ยิงดับหนุ่มโคราช เชื่อปมหึงหวง “ชายรักชาย” ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณี นายสิรภพ ชิตทอง อายุ 37 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่กลางหน้าผาก เสียชีวิตบริเวณป่าละเมาะริมถนนตัดใหม่ไชยมงคล-สูงเนิน บ้านหนองไทร หมู่ 5 ตำบลไชยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา

 

 

โดยใกล้กันพบ นายอุดมศักดิ์ กว้างพิมาย อายุ 36 ปี นั่งอยู่บนรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้าสีขาว 4 ประตู จอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งนายอุดมศักดิ์ให้การเบื้องต้นว่า คบหาเป็นแฟนกันกับผู้เสียชีวิตในลักษณะชายรักชาย มีอาชีพค้าขายสินค้าออนไลน์ โดยก่อนเกิดเหตุมีคนติดต่อเพื่อขอซื้อปืนกับผู้เสียชีวิต จึงได้พากันนำปืนมาทดสอบยิงที่ป่าละเมาะแห่งนี้

 

นายอุดมศักดิ์อ้างว่า ผู้เสียชีวิตได้เข้าไปจุดเกิดเหตุคนเดียว ส่วนตนนั่งรออยู่ในรถ สักพักมีชาวบ้านเดินออกมาแจ้งว่านายสิรภพ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

 

ล่าสุด วันที่1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ศาลา 3 วัดวิสุทธิศรีสุมังคลาราม (วัดหนองไผ่ล้อม) ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศลของนายสิรภพ ชิตทอง ผู้ตาย บรรดาญาติ พี่น้อง ต่างวิพากษ์วิจารถึงความผิดปกติ ต่อคำให้การของนายอุดมศักดิ์ ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้

 

ภายหลังจากที่ พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.จว.นครราชสีมา ได้เปิดเผยว่า นายอุดมศักดิ์ ให้การขัดแย้งกับหลักฐานหลายอย่าง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐาน เพื่อเร่งคลี่คลายคดี

 

ด้านนายณัฐนนท์ ยศหลวงทุ่ม อายุ 23 ปี เพื่อนร่วมธุรกิจขายสินค้าออนไลน์กับผู้ตายเปิดเผยว่า ตนโทรศัพท์พูดคุยกันเรื่องธุรกิจการซื้อขายหงส์กับนายสิรภพ เมื่อเช้าวันที่ 30 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 06.22 น.

 

โดยนายสิรภพแจ้งว่าจะนำลูกหงส์ไปส่งให้ตนในเวลาประมาณ 9 โมงเช้าวันเดียวกัน และลูกค้าได้โอนเงินให้นายสิรภพเป็นค่าซื้อขายลูกหงส์ที่นำเข้าจากเวียดนามไปแล้วกว่า 2 แสนบาท แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายก็ไม่เห็นนายสิรภพ เดินทางไปตนพยายามติดต่อจึงทราบว่านายสิรภพถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

 

ทั้งนี้ตนยืนยันว่า นายสิรภพไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีประเด็นปัญหาอะไรประกอบกับวิถีกระสุนเป็นการยิงแสกหน้าทะลุศีรษะด้านหลังไม่ใช่เป็นการยิงตัวเองอย่างแน่นอน

 

ด้านนายทศพร ชิตทอง อายุ 31 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วพี่ชายของตนเอง จะเป็นคนมีลักษณะคล้ายผู้หญิง ซึ่งไม่ชอบอะไรที่รุนแรง โดยเฉพาะเรื่องของปืนผาหน้าไม้ ซึ่งตนมั่นใจว่าพี่ของตนเองไม่เอามาเล่นแน่นอน พี่ของตนเองได้เช่าบ้านพักอาศัยอยู่กับนายอุดมศักดิ์ 2 คน ที่บริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ซึ่งครอบครัวก็รู้ดี

 

แต่การให้การของนายอุดมศักดิ์ มีพิรุธหลายอย่าง เช่น พี่ชายของตนเองไม่ชอบปืน และการที่จะออกไปทดลองยิงปืนตอนประมาณเวลา 04.00 น. ตามที่นายอุดมศักดิ์ระบุพี่ชายของตนที่มีนิสัยอย่างนั้นจะกล้าออกไปหรือ

 

เพื่อนของพี่ชายที่ทำธุรกิจร่วมกัน โทรศัพท์คุยกับพี่ชายครั้งสุดท้ายตอน 06.22 น. แต่นายอุดมศักดิ์บอกว่าเหตุเกิดตอนเวลา 04.00 น. มันค้านกันชัดเจน กรณีถ้าคนไปทดลองยิงปืน ปกติจะหันกระบอกปืนออก แต่กับพี่ชายของตนเองกลับหันกระบอกปืนเข้ากลางหน้าผากของตัวเอง จะเป็นไปได้หรือ

 

พี่ชายของตนเองเป็นคนถนัดขวา แต่ในที่เกิดเหตุ พบว่าปืนตกอยู่ฝั่งมือซ้าย .ลักษณะมือขวาของพี่ชายตนเองนั้น วางอยู่บนกระเป๋า เหมือนมีการจัดฉากไว้อย่างเรียบร้อย และ ถ้าคนจะฆ่าตัวตายจริงๆ คงจะยิงขมับตัวเองถนัดกว่า ไม่ใช่ยิงกลางหน้าผาก ดังนั้นจึงทำให้ตนเองและครอบครัวเชื่อว่าคนยิงในครั้งนี้ คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากคนใกล้ชิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง