มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไทย ครอบคลุมแต่ยังไม่จบ

รัฐบาลไทยเดินเกม “หลายชั้นพร้อมกัน” เพื่อสกัดอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายสูง แต่แม้ตัวเลขคดีและมูลค่าความเสียหายจะลดลงหลังชุดมาตรการเข้มข้น ปัญหายังไม่สิ้นสุดเพราะโครงสร้างขบวนการยืดหยุ่น เชื่อมโยงทุนสีเทา และมีจุดเปราะบางเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลและคอร์รัปชัน
1) กฎหมายใหม่เป็นฐานคุมเสี่ยงระบบ
พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผล ก.พ. 2568 ขยายความรับผิดและหน้าที่ของแพลตฟอร์ม P2P ค่ายมือถือ ธนาคาร และโซเชียล มีดาบสั่งระงับซิมต้องสงสัย ส่งข้อมูลบัญชีม้าเข้าปปง. เร่งคืนเงินผู้เสียหาย และเพิ่มโทษการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล
2) “สามตัด” โครงสร้างพื้นฐานชายแดน
คำสั่ง สมช. ให้ตัดไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณสื่อสาร 5 จุดฐานปฏิบัติการแนวชายแดนไทย–เมียนมา ผลเดือนแรกคดีอาชญากรรมออนไลน์ลดราว 20% คดีคอลเซ็นเตอร์ลด 67% มูลค่าความเสียหายหดลงประมาณ 200 ล้านบาท
3) โทรคมนาคม ปิดช่องซิม–สแปมที่ปลายทาง
เดินระบบลงทะเบียนซิมด้วยไบโอเมตริกส์ บล็อก SMS ที่แนบลิงก์ผิดปกติ กรองสายเข้าอินเตอร์เนชั่นแนล แจ้งเตือน +66 บนสายจากต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มการตรวจเสาสัญญาณชายแดนที่ถูกใช้เป็นฐานโจมตีสัญญาณ
4) ปฏิบัติการจับกุมต่อเนื่อง
ตั้งแต่บุกทลายเครือข่ายใหญ่ในหลายจังหวัด จับผู้ต้องหาหลายสิบคน ไปจนถึงคดีเจ้าหน้าที่รัฐพัวพันอุปกรณ์ SIM BOX โทรได้วันละหมื่นสาย ขยายผลถึงชาวต่างชาติและพนักงานธนาคารที่เอื้อเปิดบัญชีม้า
5) ร่วมมือข้ามพรมแดน
ตั้งกลไกประสาน ไทย–จีน–เมียนมา แลกเปลี่ยนข่าวกรอง ซีลแนวชายแดน 51 อำเภอ และผลักดันการส่งผู้ต้องหาคืนประเทศต้นทาง ตัวเลขจับกุมเครือข่ายชาวจีนที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเด่นชัดตลอดปี 2568
6) การเงิน เร่งคืน–เร่งอายัด
ปปง.รับข้อมูลบัญชีม้าแบบเชิงรุก ระงับธุรกรรมต้องสงสัย และเพิ่มประสิทธิภาพคืนเงินให้เหยื่อ ควบคู่มาตรการพึงงดใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในวงจรฟอกเงินของขบวนการ
7) สื่อสารสาธารณะและศูนย์รับแจ้ง
ใช้ศูนย์ AOC 1441 แคมเปญเตือนภัยหลายช่องทาง และบริการสกัดลิงก์เสี่ยงแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ประชาชน “หยุดเชื่อ หยุดโอน” ตั้งแต่ต้นทาง
ตัวเลขชี้ผลสัมฤทธิ์ระยะสั้น
ช่วง ต.ค. 2566–พ.ย. 2567 มีคดีออนไลน์ 402,542 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 42,662 ล้านบาท หลังมาตรการเข้มข้น ความเสียหายเฉลี่ยต่อวันลดจากราว 100–120 ล้านบาท เหลือ 60–70 ล้านบาท และหลัง “ตัดไฟ–เน็ต” คดีรวมลดลงอีกราว 20% ในขณะที่คดีคอลเซ็นเตอร์ลด 67%
ทำไมยังไม่จบ
- โครงสร้างข้ามชาติและยืดหยุ่น ฐานตั้งในเมียนมา กัมพูชา ลาว แบ่งงานแบบองค์กรธุรกิจ โยกย้ายเร็วเมื่อถูกกดดัน
- ผลประโยชน์ทับซ้อน พบการเอื้อประโยชน์จากบางเจ้าหน้าที่ การเมืองท้องถิ่น และบุคลากรสถาบันการเงิน
- ทุนสีเทาและมาเฟียข้ามชาติ เงินหมุนเวียนมหาศาล เชื่อมเครือข่ายจีนเทา
- กฎหมาย–การบังคับใช้ยังมีช่องโหว่ บางมาตรการยังตามเทคโนโลยีไม่ทัน บทลงโทษไม่หนาพอ
- ข้อมูลส่วนบุคคลรั่ว ซื้อขายบนดาร์กเว็บ ใช้อัลกอริทึมเลือกเหยื่อและจังหวะโทร
- ความร่วมมือระหว่างประเทศติดเงื่อนไขการเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ขัดแย้งและเขตเศรษฐกิจพิเศษ
- เทคโนโลยีโจมตีใหม่ เช่น False Base Station, SIM BOX, AI โทรหลอกอัตโนมัติ
- ปัจจัยสังคม–เศรษฐกิจ คนไทยบางส่วนสมัครใจเข้าร่วมจากปัญหาหนี้ รายได้ และอำนาจบังคับในค่ายทำงาน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
