นายกฯ สั่งการเกาะติดเขื่อนภูมิพล หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจ่อระบายเข้าพื้นที่เกษตรฯ

วันนี้ (10 พ.ย. 68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายศิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมติดตามและบริหารจัดการสถานการณ์น้ำ ภายหลังได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจเร่งด่วนต้องเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก

การประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สทนช., ปภ., และกรมชลประทาน เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำหลัง พายุคัลแมกี ผ่านพ้นไป พบว่าสถานการณ์น้ำเข้าสู่จุดวิกฤตที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด

สถานการณ์เขื่อนภูมิพลวิกฤต เตรียมเพิ่มการระบายน้ำ

ขณะนี้ เขื่อนภูมิพลมีน้ำสูงถึง 99% ของความจุ และ  ประเมินว่ามีน้ำไหลเข้าวันละ 90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน การระบายปัจจุบัน ระบายออกอยู่ที่ 40-45 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย นายภราดรระบุว่า หากยังมีน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่เกิน 3 วันนี้ เขื่อนภูมิพลจะเต็มความจุ ซึ่งจะทำให้ต้องระบายน้ำในปริมาณที่ควบคุมได้ยาก จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้าน ลบ.ม./วัน ในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้

ผลกระทบใต้เขื่อนเจ้าพระยาและการบริหารจัดการ

น้ำที่ระบายจากเขื่อนภูมิพลจะไหลลงสู่ แม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านนครสวรรค์ และลงสู่ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท โดยเขื่อนเจ้าพระยา ปัจจุบันระบายน้ำอยู่ที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากน้ำจากเขื่อนภูมิพลไหลมาเติม ปริมาณการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาจะต้องสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใต้เขื่อนตั้งแต่ สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ไปจนถึงกรุงเทพฯ

สำหรับแนวทางแก้ไขกรมชลประทานจะเร่งระบายน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน ด้านตะวันตกและตะวันออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการระบายน้ำเข้าไปเก็บไว้ใน พื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งขอแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เกษตรกรรมเตรียมรับมือหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้

ยืนยันน้ำท่วมไม่ซ้ำรอยปี 54 - เยียวยาน้ำท่วมแล้ว 60 - 70%

สถานการณ์ปัจจุบัน เขื่อนสิริกิติ์คาดว่าปริมาณน้ำไหลเข้าจะลดลง ทำให้สามารถลดการระบายน้ำจาก 10 ล้าน ลบ.ม./วัน เหลือ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในช่วง 11-12 พ.ย. 68 ซึ่งจะช่วยบรรเทาปริมาณน้ำที่จะไปเติมแม่น้ำเจ้าพระยาได้บางส่วน โดยรัฐบาลเชื่อมั่นว่าจะ ไม่เกิดอุบัติเหตุควบคุมทิศทางน้ำไม่ได้ซ้ำรอยปี 2554 เนื่องจากจะมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด และสถานการณ์น้ำทะเลหนุนจะดีขึ้นหลังช่วงลอยกระทง

ขณะที่ ปภ. รายงานว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท ได้ดำเนินการไปแล้ว 60-70% และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายใน 24 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้พิจารณา เงินชดเชยเยียวยาเพิ่มเติม สำหรับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมนาน 30 วัน และ 60 วัน โดยจะนำเข้า ครม. ในเร็ว ๆ นี้