รีเซต

ภาษีสหรัฐฯ กระทบหุ้นไทยแค่ไหน? "หยวนต้า" แนะหุ้นน่าเก็บ

ภาษีสหรัฐฯ กระทบหุ้นไทยแค่ไหน? "หยวนต้า" แนะหุ้นน่าเก็บ
TNN ช่อง16
4 กรกฎาคม 2568 ( 15:00 )
17

"หยวนต้า" เปิด 3 ฉากทัศน์รับมือภาษีสหรัฐฯ ที่จะประกาศในเร็วๆ นี้ ชี้หากออกมาดีสุดที่ 15% หนุน SET Index พุ่งสู่ 1,150 จุด แต่มองกรณีฐานน่าจะอยู่ที่ 18-20% กดดันตลาดไซด์เวย์ซึมลง แนะนักลงทุน "ห้ามไล่ราคา" หุ้นส่งออกที่เก็งกำไรขึ้นมารอแล้ว ให้รอจังหวะ "Sell on Fact" เพื่อเข้าซื้อ ชู CCET เด่นสุดในกลุ่ม ส่วนปัจจัยในประเทศไม่น่าห่วง เชื่อ "ยุบสภา" ไม่กระทบงบประมาณ มองบวกครึ่งปีหลังเป้าหมาย 1,275 จุด

คุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE ถึงประเด็นสำคัญที่ตลาดกำลังจับตา คือการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าไทย โดยได้ประเมินผลกระทบต่อ SET Index ออกเป็น 3 กรณี

ภาษีสหรัฐฯ-หยวนต้าให้น้ำหนักกรณีไหน?

  1. กรณีดีที่สุด (Best Case): ไทยได้อัตราภาษีที่ ~15% จะเป็นปัจจัยหนุนให้ SET Index ปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,150 จุด

  2. กรณีฐาน (Base Case - ความน่าจะเป็นสูงสุด): อัตราภาษีอยู่ที่ 18-20% ซึ่งใกล้เคียงกับเวียดนาม ตลาดจะเกิดภาวะ "Sell on Fact" และเคลื่อนไหวในลักษณะ ไซด์เวย์ซึมลง (Sideways Down) แต่ไม่น่าจะหลุดแนวรับ 1,100 จุด

  3. กรณีแย่ที่สุด (Worst Case): ถูกเก็บภาษีเต็มอัตราที่ 36% จะกดดันให้ดัชนีถอยลงมาที่ 1,070-1,080 จุด อย่างไรก็ตาม คุณณัฐพลให้น้ำหนักกรณีนี้เพียง 10% เนื่องจากเชื่อว่าการที่ไทยได้แก้ไขกฎหมายเรื่องการสวมสิทธิ์ไปแล้ว จะเป็นแต้มต่อสำคัญในการเจรจา

กลยุทธ์หุ้นส่งออก: ห้ามไล่ราคา! รอจังหวะ "Sell on Fact"

สำหรับหุ้นกลุ่มส่งออกและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (HANA, KCE, DELTA, CCET) ที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมาเพื่อเก็งกำไรข่าวดังกล่าว คุณณัฐพลแนะนำกลยุทธ์ที่ชัดเจนว่า "ไม่ควรไล่ราคาในตอนนี้"

"ไม่ว่าตัวเลขภาษีจะออกมาดีหรือใกล้เคียงคาด ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องมี Sell on Fact แต่จะเป็นการย่อลงแบบมีทรง สำหรับคนตามไม่ทันรอบที่แล้ว ไม่ต้องเสียดาย เพราะเราไปเก็งต่อตอนนี้เสียเปรียบ ควรรอจังหวะย่อตัวหลังประกาศข่าว แล้วจึงพิจารณาเข้าซื้อ"

โดยหุ้นที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มคือ HANA และ CAL-COMP (แคลคอม) ซึ่งคุณณัฐพลมองว่า "CCET ดูโดดเด่นที่สุด" เนื่องจากได้ขยายกำลังการผลิตในไทยรองรับไว้แล้ว และเมื่อมีความชัดเจนเรื่องภาษี จะทำให้คำสั่งซื้อ (Order) ที่ต้องการย้ายฐานการผลิตจากจีนและเวียดนาม ทะลักเข้ามาที่ไทย ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด


ปัจจัยในประเทศ:

คุณณัฐพลมองว่าปัจจัยการเมืองในประเทศไม่น่ากังวล โดยเชื่อว่างบประมาณปี 2569 จะผ่านสภาได้ทันในเดือนสิงหาคม-กันยายน และแม้จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนต้อง "ยุบสภา" ก็ตาม จะไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ

"หากมีการยุบสภาจริง งบประมาณอาจล่าช้าไปเพียง 2 เดือน ซึ่งน้อยกว่าในอดีตมาก และระหว่างที่รองบใหม่ก็ยังสามารถใช้งบของปี 68 ไปก่อนได้ ดังนั้นหากตลาดปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องนี้ มันคือโอกาสซื้อสำหรับหุ้น Domestic Play"

ท่องเที่ยว-สายการบิน: พระเอกครึ่งปีหลัง?

กลุ่มท่องเที่ยวเป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ โดยมองว่าอุตสาหกรรมจะกลับมาเป็นพระเอกได้ในครึ่งปีหลัง จากความต้องการท่องเที่ยวในประเทศที่ยังมีอยู่มหาศาล

  • Top Pick กลุ่มโรงแรม: เลือก CENTEL เป็นหุ้นเด่น เพราะผ่านพ้นช่วงลงทุนปรับปรุงใหญ่ไปแล้ว ทำให้มีฐานกำไรต่ำและพร้อมจะเติบโตสูงในช่วงครึ่งปีหลัง

  • กลุ่มสายการบิน: AAV และ BA มีความน่าสนใจจากราคาหุ้นที่ยังถูก แต่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นชั่วคราว หากหลังการประชุม OPEC+ วันที่ 6 ก.ค. ราคาน้ำมันย่อตัวลง จะเป็นจังหวะที่ดีในการพิจารณา

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง