รวบแก๊งแชร์ลูกโซ่ หลอกหาสมาชิก ขายโซล่าร์เซลล์แพงเกินจริง แลกกู้เงิน 2.5 ล้าน
เจ้าหน้าที่เมืองกาญจน์ รวบแก๊งแชร์ลูกโซ่ หลอกให้หาสมาชิกเพิ่ม ขายโซล่าร์เซลล์แพงเกินจริง แลกกู้เงิน 5 แสน ถึง 2.5 ล้าน
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายวิฑูรย์ สิรินุกุล นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี สั่งการให้นายวีระ หิรัญกุล ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองกาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาญจนบุรีและตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ
หลังรับแจ้งมีกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมชักชวนให้ประชาชนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกธนาคารแสงแดด โดยวิธีการจ่ายเงินซื้อไฟโซล่าเซลล์ติดผนัง จำนวน 1 ชิ้น ในราคา 300 บาท โดยจะต้องซื้อต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ชิ้น เป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน รวมทั้งจะต้องหาสมาชิกมาเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมและจ่ายเงินซื้อไฟโซล่าร์เซลล์ในวิธีการเดียวกัน
โดยระบุว่า หากสมาชิกรายใดที่ทำได้ตามข้อตกลง จะได้รับสิทธิ์ยื่นกู้เงินจากทางธนาคารแสงแดด วงเงิน 500,000-2,500,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 พบว่ามีผู้หลงเชื่อเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อทำตามข้อกำหนดแล้ว กลับพบว่าไม่สามารถยื่นขอกู้เงินได้จริง ถือว่าเป็นการหลอกลวงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
จากการแฝงตัวลงพื้นที่สืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่ากลุ่มคนดังกล่าวเปิดสำนักงานที่ตึกแถวเลขที่ 61/2 หมู่ 4 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี และมีการจัดกิจกรรมชักชวนประชาชนมาเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม ในวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 15.00 น. ที่บริเวณศาลาประชาคม หมู่ 5 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนโดยแฝงตัวเข้าไปร่วมรับฟังการบรรยาย พร้อมบันทึกภาพและเสียงเพื่อเป็นหลักฐาน ก่อนจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่และเชิญตัวกลุ่มบุคคลที่เป็นวิทยากรและผู้จัดงาน มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี จำนวน 4 คน
ประกอบด้วย 1.นายมาฆะ โทณะวณิก อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/109 หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นเจ้าของโครงการธนาคารแสงแดด 2.นายนรภัทร แป้นเขียว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ถนนแสงชูโต 34 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นประธานศูนย์อำเภอเมืองกาญจนบุรี 3.นายนิกร สุขมารถ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 1 ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้รับโอนเงินค่าไฟโซล่าร์เซลล์จากสมาชิก และ 4.น.ส.พรพิมล สุตตาเส็ง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 430 หมู่ 7 ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นผู้รับเงินสดชำระเงินค่าไฟโซล่าร์เซลล์จากสมาชิก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่สำนักงานธนาคารแสงแดด พร้อมตรวจยึดไฟโซล่าร์เซลล์ติดผนัง จำนวน 239 ชิ้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง แท็บเล็ต 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 ชุด บัญชีรายชื่อสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 1ชุด บัญชีรายชื่อสมาชิกผู้จ่ายเงิน จำนวน 7 ชุด และสมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม
จากการตรวจสอบราคาไฟโซล่าร์เซลล์ที่กลุ่มคนดังกล่าวนำมาจำหน่าย ในราคาชิ้นละ 300 บาท พบว่าตามท้องตลาดมีราคาเพียงชิ้น 49 บาทเท่านั้น เมื่อมีผู้หลงเชื่อสมัครสมาชิก ผู้สมัครจะต้องรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิก โดยการซื้อไฟโซล่าร์เซลล์ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ชิ้น และจะต้องซื้อต่อเนื่องทุกสัปดาห์จนครบระยะเวลา 4 เดือน จึงจะได้สิทธิ์กู้เงิน โดยให้ผ่อนชำระเงินต้นเดือนละ 2,000 บาท และดอกเบี้ยเดือนละ 500 บาท เมื่อผ่อนชำระถึง 10 ปี ทางโครงการจะถือว่าเป็นผู้ประพฤติดีและจะยกเว้นการชำระหนี้ที่เหลือทั้งหมดให้กับสมาชิกรายนั้น
หลังการนำกำลังเข้าทำการตรวจค้นและเชิญตัวกลุ่มบุคคลทั้ง 4 คน มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม มีกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย ยืนยันว่าเป็นสมาชิกโครงการ ได้จ่ายเงินให้โครงการตามข้อกำหนด แต่ยังไม่ได้รับผลตอบแทนตามสัญญา เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลทั้ง 4 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยังคงให้การปฏิเสธ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีการดำเนินโครงการธนาคารแสงแดดในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการเปิดศูนย์เรียนรู้ชักชวนประชาชนให้หลงเชื่อ ทั้งในระดับตำบล ระดับอำเภอและระดับจังหวัด คาดว่าจะมีผู้ที่หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อหลายหมื่นคน