ไอซ์แลนด์ เสนอเป็นสนามทดลอง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ของวัคซีนโควิด-19

วันนี้ ( 15 ก.พ. 64 )สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คารี สเตฟานส์สัน ผู้บริหารบริษัท decode Genetics และ โธรอลเฟอร์ กัสนาสัน หัวหน้านักระบาดวิทยาของไอซ์แลนด์ ได้ติดต่อผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์ไปช่วงก่อนคริสต์มาสที่ผ่านมา พวกเขาเสนอแนวคิดที่ว่า ไอซ์แลนด์ต้องการวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค จำนวน 500,000 โดส อย่างรวดเร็ว เพื่อที่ว่าไอซ์แลนด์จะได้ให้ประชากรราว 70% ของประเทศได้ฉีดวัคซีนภายในสิ้นเดือนมีนาคม และไอซ์แลนด์จะเป็นพื้นที่การศึกษาแบบชีวิตจริงว่าจะเกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ได้หรือไม่

สเตฟานส์สัน กล่าวว่า แนวคิดเรื่อง “ภาวะภูมิคุ้มกันหมู่นั้นไม่เคยมีการวิจัยมาก่อน ตอนนี้มีแต่ทฤษฎี จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะศึกษาลึกลงกว่านี้” ตามหลักการแล้ว ต้องใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่า จึงจะได้รับคำตอบของคำถามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ไวรัสกลายพันธุ์สามารถหลุดรอดจากภูมิคุ้มกันหมู่หรือไม่ แอนตี้บอดี้จะก่อตัวในเลือดได้เร็วแค่ไหนหลังการฉีดวัคซีน และแอนติบอดี้จะเริ่มเสื่อมลงเมื่อไหร่

อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราการติดเชื้อรายใหม่ของไอซ์แลนด์ที่ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ไฟเซอร์ได้ข้อสรุปว่า ไอซ์แลนด์มีการติดเชื้อน้อยเกินไปที่จะทำการศึกษาวัคซีนกับภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ได้ ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ มีท่าเรือหลักเพียงแห่งเดียว มีจำนวนประชากรน้อย เพียง 360,000 คน และยังมีระบบสาธารณสุขที่รวมศูนย์ ทำให้ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีความพร้อมครบครันในการรับมือการระบาดของโควิด-19 

ที่ผ่านมา ไอซ์แลนด์ ไม่เคยใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเหมือนชาติอื่นๆ แต่รัฐบาลได้ใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างรวดเร็ว และให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย แบนการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ และปิดโรงเรียนต่างๆ 

 ไอซ์แลนด์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมที่ราว 6000 คน และเสียชีวิตเพียง 29 คนเท่านั้น 

ไอซ์แลนด์ไม่ใช่ประเทศเดียวที่หารือกับไฟเซอร์ในการรีบจัดส่งวัคซีน เพื่อวัดประสิทธิภาพของวัคซีน ในเดือนมกราคม บริษัทไฟเซอร์บรรลุข้อตกลงกับอิสราเอลในการเร่งจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อให้อิสราเอลสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรที่มีอายุมากกว่า 16 ปี ทุกคน ภายในสิ้นเดือนมีนาคม โดยอิสราเอลจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนของอิสราเอลให้กับไฟเซอร์เป็นการตอบแทน

ทั้งนี้ อิสราเอลเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนได้เร็วและครอบคลุมที่สุดในโลก โดยอิสราเอลมีประชากร 9 ล้านคน แต่มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 3.8 ล้านคน และผู้ที่ได้รับวัคซีนทั้งสองโดสไปแล้ว 2.4 ล้านคน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  อิสราเอลเผยผลการศึกษา ในกลุ่มประชากร 600,000 หลังได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ครบสองโดส พบว่า วัคซีนไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19แบบแสดงอาการได้ถึง 94% และมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไม่ให้ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยหนักได้ถึง 92%

นอกจากนี้ สัปดาห์ก่อนหน้า อิสราเอลเผยว่า จาดการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบสองโดสให้ประชากรราวครึ่งล้าน พบว่า มีเพียง 544 คนเท่านั้น ที่มีผลการตรวจเชื้อเป็นบวก หรือเพียง 0.1% โดยในจำนวนนี้ มีผู้ที่ป่วยหนักเพียง 4 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต