ออสเตรเลียทดสอบ “โดรน” ทหารไฮบริด ที่บินขึ้นลงแนวดิ่งและแบบเครื่องบินปกติครั้งแรกสำเร็จ
บีเออี ซิสเต็มส์ ผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ และอากาศยานสัญชาติอังกฤษ สาขาออสเตรเลีย (BAE Systems Australia) เผยแพร่วิดีโอการทดสอบบิน สตริกซ์ (STRIX) ระบบอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial System: UAS) แบบขึ้นลงในแนวดิ่ง (VTOL: Vertical Take-Off and Landing) ที่ผสมกับการบินปกติ แบบเครื่องบินทั่วไป ที่จะผลิตเพื่อใช้ในภารกิจตั้งแต่การสอดแนม สังเกตการณ์ และการติดตั้งอาวุธเพื่อการโจมตีให้กับกองทัพออสเตรเลีย หลังจากมีข่าวว่าจะทำการทดสอบในเดือนตุลาคมตามที่ TNN Tech เคยรายงานก่อนหน้านี้
สรุปสเปก STRIX โดรนทหารไฮบริดจากออสเตรเลีย
STRIX เป็นโดรนแบบ UAS ที่ผสานความสามารถของโดรนและเครื่องบินเข้าด้วยกัน โดยในการขึ้นบินและลงจอดนั้นทำได้ในแนวดิ่งเพื่อให้ไม่จำเป็นต้องใช้ทางขึ้น (Runway) แต่เมื่อขึ้นบินแล้วก็สามารถปรับปีกเป็นเครื่องบินทั่วไปแบบปีกตรึง (Fixed-wing) เพื่อเพิ่มความสามารถในการบรรทุกสัมภาระและระยะทางการบินได้
STRIX มีความกว้างด้านหน้าอยู่ที่ 6 เมตร ยาว 5 เมตร และสูง 2.6 เมตร ใช้เครื่องยนต์แบบไฮบริดที่ผสมกำลังจากมอเตอร์ ทำความเร็วการบิน (Cruise speed) ประมาณ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 200 กิโลกรัม บินต่อเนื่องสูงสุด 3 - 5.25 ชั่วโมง และระยะทาง 540 - 1,500 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสัมภาระ ที่ระดับความสูง 2,000 - 15,000 ฟุต หรือประมาณ 600 - 3,000 เมตร
การทดสอบ STRIX โดรนทหารไฮบริดจากออสเตรเลีย
เป้าหมายหลักในการทดสอบคือดูว่าโดรนที่ออกแบบให้ปีกด้านหน้าที่วางใต้ลำตัวเครื่อง กับปีกด้านหลังที่วางเหนือลำตัวเครื่องจะสามารถพลิกมุมเป็นแนวตั้งเมื่อขึ้นบินในรูปแบบ VTOL ได้หรือไม่ รวมถึงดูระบบการทรงตัว การบังคับ และการลงจอดว่าราบรื่นหรือไม่ด้วยเช่นกัน
โดยในคลิปการทดสอบแสดงการทำงานของใบพัด (Propeller) ด้านหน้าที่ติดกับปีกฝั่งด้านล่างลำตัวนั้นทำงาน และยกตัว STRIX ขึ้นมาทำมุมในแนวตั้ง ก่อนที่ชุดใบพัดด้านหลังของตัวเครื่องจะเริ่มการทำงานและเริ่มขึ้นบินในแนวดิ่งได้โดยไม่เสียการทรงตัว ในขณะที่การลงจอดจะทำในลักษณะกลับกัน คือการลงจอดในแนวดิ่งก่อนที่ชุดใบพัดด้านหน้าจะลดแรงส่งเพื่อให้ตัวโดรนค่อย ๆ ลงจอดที่พื้นและวางตัวในแนวระนาบ
ทั้งนี้วิดีโอระบุว่าการทดสอบเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลของออสเตรเลียซึ่งทดสอบในเดือนตุลาคม แต่เปิดเผยวิดีโอการทดสอบบนยูทูบ (Youtube) เมื่อ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่วนเครื่องมือหรืออาวุธ ไปจนถึงแผนการผลิต ระยะเวลาผลิต หรือช่วงเวลาที่จะเข้าประจำการ ยังคงไม่ได้รับการเปิดเผยในปัจจุบัน
ข้อมูล New Atlas