รีเซต

"ความโลภ"ในทางจิตวิทยา ไม่ใช่แค่ความอยากได้ แต่เป็น ความปรารถนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด

"ความโลภ"ในทางจิตวิทยา ไม่ใช่แค่ความอยากได้ แต่เป็น ความปรารถนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด
TNN ช่อง16
27 สิงหาคม 2568 ( 10:23 )
14

ความโลภในทางจิตวิทยาไม่ใช่แค่ความอยากได้ แต่เป็น ความปรารถนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด ที่จะครอบครองทรัพย์สิน อำนาจ หรือสถานะทางสังคมให้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมักจะทำไปเพื่อเติมเต็มความรู้สึกขาดบางอย่างภายใน ซึ่งแตกต่างจากความทะเยอทะยานทั่วไปที่มักจะมีเป้าหมายที่ชัดเจน


รากฐานทางชีววิทยาและวิวัฒนาการ

ความโลภมีรากฐานมาจากสัญชาตญาณเอาตัวรอดของมนุษย์ในยุคโบราณ ที่การสะสมทรัพยากรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอด แต่ในโลกยุคใหม่ ความปรารถนานี้กลับถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจากระบบรางวัลของสมอง


โดพามีน (Dopamine) เมื่อเราคาดหวังหรือได้รับรางวัลบางอย่าง เช่น เงินทอง หรือคำชม สมองจะหลั่งสารโดพามีนออกมา ซึ่งทำให้เรารู้สึกดีและอยากทำพฤติกรรมนั้นซ้ำอีกเรื่อยๆ ความโลภจึงเป็นวงจรที่ยากจะหลุดพ้น เพราะเมื่อได้มาแล้วก็จะยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก


ปัจจัยทางจิตวิทยา

นอกจากปัจจัยทางชีววิทยาแล้ว ความโลภยังถูกขับเคลื่อนด้วยสาเหตุทางจิตใจที่ซับซ้อนอีกหลายประการ

ความไม่มั่นคงภายใน หลายครั้งความโลภไม่ได้มาจากความรักในสิ่งของ แต่มาจากความไม่มั่นคงในตัวเอง การสะสมสิ่งของหรือเงินทองจำนวนมากจึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย มีคุณค่า และได้รับการยอมรับจากสังคม


ความกลัวการขาดแคลน แม้จะมีทรัพย์สินมากมาย แต่คนที่มีความโลภอาจจะยังคงมีความกลัวว่าวันหนึ่งจะไม่มีพอ จึงกระตุ้นให้พวกเขาสะสมและยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น

การเปรียบเทียบทางสังคม ในยุคที่โซเชียลมีเดียทำให้เราเห็นความสำเร็จและความมั่งคั่งของคนอื่นได้ตลอดเวลา การเปรียบเทียบนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองมีไม่พอ ทำให้เกิดความต้องการที่จะไล่ตามผู้อื่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


โดยสรุปแล้ว ความโลภเป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่ซับซ้อน เป็นการผสมผสานระหว่างสัญชาตญาณเอาตัวรอด ระบบรางวัลของสมอง และความไม่มั่นคงภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้ผลักดันให้คนเราแสวงหาสิ่งต่างๆ อย่างไม่รู้จักพอ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง