องค์การยายุโรปประกาศวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกา 'ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ'
บรัสเซลส์, 19 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (18 มี.ค.) องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) พิจารณาการตรวจสอบเบื้องต้นและสรุปว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของแอสตราเซเนกานั้น "ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ" โดยไม่ได้ฟันธงชัดเจนว่าอาการเลือดแข็งตัวและเกล็ดเลือดต่ำนั้นไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน
"เราจะติดตามรายงานอาการเลือดแข็งตัวอย่างใกล้ชิดต่อไป พร้อมทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้มีข้อมูลจากห้องปฏิบัติการและหลักฐานจากการใช้จริงเพิ่มขึ้น" องค์การระบุในแถลงการณ์
เอเมอร์ คุก กรรมการบริหารขององค์การกล่าวย้ำถึงประสิทธิภาพของวัคซีนที่พัฒนาร่วมกันโดยแอสตราเซเนกา บริษัทเภสัชภัณฑ์ข้ามชาติสัญชาติสหราชอาณาจักร กับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พร้อมระบุว่าคณะกรรมการประเมินความเสี่ยงด้านการติดตามความปลอดภัยของยา "ได้ข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนแล้วว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกาปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ"
คุกระบุว่าประโยชน์ของวัคซีนด้านการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตหรือรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยนั้นมีมากกว่าอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และ "วัคซีนไม่ได้มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงโดยรวมของอาการลิ่มเลือดอุดตันหรือเลือดแข็งตัว"
องค์การประกาศยืนยันความปลอดภัยของวัคซีนโดยมีเงื่อนไขว่า "ด้วยหลักฐานที่มีในปัจจุบัน รวมถึงผลที่ได้จากการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการนานหลายวัน ตลอดจนรายงานทางคลินิก รายงานการชันสูตรศพ และข้อมูลเพิ่มเติมจากการทดลองทางคลินิกแล้ว เรายังคงไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ว่าอาการเลือดแข็งตัวนั้นอาจเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน" คุกกล่าว
คุกระบุว่าองค์การแนะนำให้เพิ่มคำเตือนลงในข้อมูลผลิตภัณฑ์ของวัคซีน เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ "หยุดยั้งและบรรเทาผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น"
ช่วงที่ผ่านมาหลายประเทศในยุโรประงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาบางส่วนหรือทั้งหมด หลังมีรายงานว่ามีผู้ที่อาจเสียชีวิตจากอาการเลือดแข็งตัวหลังฉีดวัคซีน ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความรวดเร็วของกระบวนการฉีดวัคซีนในสหภาพยุโรป ที่ได้รับแรงกดดันหนักจากปัญหาขาดแคลนวัคซีนในปัจจุบัน
"ถ้าเป็นฉัน ฉันจะฉีดวัคซีนพรุ่งนี้เลย แต่ก็อยากจะรู้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังฉีดวัคซีน ฉันต้องทำอย่างไรบ้าง และนั่นคือประเด็นที่เรากำลังพูดในวันนี้" คุกกล่าว