เอาผิดบริษัททัวร์ลอบพาเที่ยวถ้ำน้ำทะลุ
หลังจากเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) เกิดเหตุไกด์นำเที่ยวฝ่าฝืนลักลอบพานักท่องเที่ยวต่างชาติ 31 คน เข้าไปในถ้ำน้ำทะลุ หรือถ้ำลอด แหล่งท่องเที่ยวของเขื่อนรัชชประภา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้มีการประกาศปิดในช่วงฤดูฝน ก่อนจะเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถ้ำน้ำทะลุอย่างรวดเร็วในช่วงค่ำ ต้องประสานเจ้าหน้าที่อุทยานฯเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ไกด์นำเที่ยว 1 คน สูญหายก่อนพบร่างจมน้ำเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้ (7 ส.ค.) ที่ท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง มารอรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุน้ำป่าไหลหลากที่ถ้ำน้ำทะลุ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และมอบพวงมาลัยปลอบขวัญ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในการดูแลนักท่องเที่ยว
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปยัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกับบริษัททัวร์ซึ่งฝ่าฝืนพานักท่องเที่ยวเข้าไปยังถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งกรมอุทยานฯได้มีประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนของทุกปี เนื่องจากในช่วงฤดูฝน มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ถ้ำน้ำทะลุเป็นประจำทุกปี ในอดีตเมื่อปี 2550 เคยเกิดเหตุน้ำป่าทะลักเข้าถ้ำมาแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นมีนักท่องเที่ยวและไกด์เสียชีวิตถึง 7 คน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงฝากเตือนไปยังบริษัทนำเที่ยวทุกแห่ง ตลอดจนนักท่องเที่ยว ขอให้ตรวจสอบการปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปีของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ตลอดจนการปิดแหล่งท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นฤดูฝน หลายพื้นที่มีฝนตกหนักและต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมแหล่งท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ หากมีการฝ่าฝืนดังกรณีตัวอย่าง กรมอุทยานฯจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด