รีพับลิกันแตกคอ! จี้ "ทรัมป์" ใส่แมสก์ เป็นตัวอย่างให้ชาวอเมริกัน

วันนี้ (1 ก.ค.63) สมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ต่างออกมาเรียกร้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และชาวอเมริกันให้ใส่หน้ากากอนามัย ในการแตกคอกับทรัมป์ และการกลับลำครั้งใหญ่ ในเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย

วุฒิสมาชิกลามาร์ อเล็กซานเดอร์ จากรัฐเทนเนสซี พรรครีพับลิกัน และวุฒิสมาชิกมิตต์ รอมนีย์ รัฐยูท่าห์ พรรครีพับลิกัน ได้ออกมากดดันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เริ่มใส่หน้ากากอนามัย เพื่อทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน และแม้กระทั่งสถานีข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ ซึ่งเป็นมิตรกับทรัมป์ ก็ยังเอาด้วย โดยเรียกร้องให้ทรัมป์ใส่หน้ากากอนามัย 

นับเป็นการแตกคอกันระหว่างสมาชิกพรรครีพับลิกัน กับประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก 

ประเด็นเรื่องหน้ากากอนามัย เคยเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก ภายในพรรครีพับลิกันของทรัมป์ แต่บัดนี้ การถกเถียงดังกล่าวนับว่าได้จบสิ้นลงแล้วอย่างสิ้นเชิง เมื่อบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันแทบทั้งพรรค ต่างกลับลำ ไม่สนับสนุนคำพูดของทรัมป์ ที่เคยบอกว่า เรื่องของการใส่หน้ากากอนามัย เป็นเรื่องของการเมืองอีกต่อไป และต่างพากันหันมาผลักดันสนับสนุนให้ชาวอเมริกันทุกคน รวมไปถึงตัวทรัมป์เอง ต้องใส่หน้ากากอนามัย เพื่อช่วยรักษาชีวิตจากการระบาดของโควิด19 

การกลับลำครั้งใหญ่ของรีพับลิกันครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่โควิด19 ได้กลับมาระบาดเพิ่มสูงขึ้นมาก ในหลายสิบรัฐของสหรัฐทางใต้และทางตะวันตก โดยมี 4 รัฐ ที่ได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่ในสหรัฐไปแล้ว คือ เท็กซัส ฟลอริดา อริโซนา และแคลิฟอร์เนีย 

บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกัน ต่างเริ่มใส่หน้ากากอนามัยกันแล้ว รวมไปถึงคนที่ใกล้ชิดกับทรัมป์อย่างมาก อย่างรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์  และวุฒิสมาชิกมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน 

แม้แต่ ดิ๊ค เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากรีพับลิกัน ที่ยังคงมีอิทธิพลภายในพรรค ก็เริ่มใส่หน้ากากอนามัยแล้ว และยังติดแฮชแท็ก เชิญชวนทุกคนให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยไม่แคร์ว่า จะไปคล้ายกับที่นางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนสหรัฐจากพรรคเดโมแครตส์คู่แข่ง ที่ได้เชิญชวนให้ชาวอเมริกันใส่หน้ากากอนามัยมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้

และในสัปดาห์นี้ เมืองแจ๊คสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่ทรัมป์จะได้รับการเลือกอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ ให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ก็เพิ่งประกาศบังคับให้ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยในการเข้าร่วมงาน

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยบอกว่า เรื่องของการใส่ หรือไม่ใส่หน้ากากอนามัย เป็นเรื่องการเมือง เพราะบางคนใส่หน้ากากอนามัย เพียงเพื่อแสดงการต่อต้านตัวเขา 

ส่วนทำเนียบขาวปกป้องทรัมป์ที่ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยว่า ทรัมป์ได้รับการตรวจเชื้อโควิด19 เป็นประจำอยู่แล้ว รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานใกล้ชิดทรัมป์ด้วย ทำเนีบบขาวชี้ว่า ทรัมป์เคยบอกแล้วว่า เขาไม่ได้มีปัญหากับการใส่หน้ากากอนามัย ถ้าหากว่าจำเป็น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวเอง ก็มักไม่ใส่หน้ากากอนามัย และโควิด19 ก็เคยบุกทำเนียบขาวมาแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทหารรับใช้ที่ขับรถให้ทรัมป์ ตำรวจลับที่อารักขาทรัมป์ และโฆษกประจำตัวรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ต่างเคยติดเชื้อโควิด19 มาแล้วทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ลอเรนซ์ กอสติน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข จากมหาวิทยาลัยจอร์จ ทาวน์ กล่าวว่า การออกมาเรียกร้องของพรรครีพับลิกัน ให้ทรัมป์และชาวอเมริกันใส่หน้ากากอนามัยในตอนนี้ อาจจะสายเกินไปแล้ว เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้สร้างความสับสนงุนงงให้แก่ประชาชนว่า ควรใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ ทำให้โควิด19 อาจจะระบาดในสหรัฐต่อไปอีกนาน และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายแสนคน